กองทัพสหรัฐฯ จัดพิธีสวนสนามครั้งใหญ่ใจกลางกรุงวอชิงตันดีซี เนื่องในวาระครบรอบ 250 ปีของกองทัพบกสหรัฐฯ ซึ่งตรงกับวันเกิดปีที่ 79 ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
กองทัพบกสหรัฐฯ ได้ส่งทหารเกือบ 7,000 นายมายังกรุงวอชิงตันดีซี ขบวนพาเหรดนี้จัดแสดงปืนใหญ่และรถหุ้มเกราะหลากหลายชนิด พร้อมด้วยยานพาหนะ 150 คัน รวมถึงรถถังเอ็ม1 เอบรามส์ มากกว่า 25 คัน รถหุ้มเกราะสไตรเกอร์ 28 คัน รถปืนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองพาลาดิน 4 คัน และปืนใหญ่ ที่รวมถึงเอ็ม 777 และเอ็ม 119
โดยในช่วง 40 นาทีแรก ขบวนพาเหรดนี้ได้รวบรวมประวัติศาสตร์ของกองทัพสหรัฐฯ ตลอดระยะเวลามากกว่า 200 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 1775 จนถึงยุคสงครามอ่าวเปอร์เซียในปี 1991 เช่นเดียวกับทหารจากกองพลภูเขาที่ 10 ที่ถูกส่งไปประจำการที่อัฟกานิสถานและอิรักมากกว่า 20 ครั้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามต่อต้านการก่อการร้ายทั่วโลก หลังจากเหตุการณ์โจมตีเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001
ทหารได้จัดแสดงอุปกรณ์ใหม่ล่าสุดของกองทัพ ซึ่งมีตั้งแต่ปืนไรเฟิลสมัยใหม่ไปจนถึงยานพาหนะและโดรนที่บินอยู่เหนือศีรษะ เฮลิคอปเตอร์หลายลำได้บินไปตามเส้นทางขบวนพาเหรด รวมทั้งแบล็กฮอว์กและชินุกหลังจากอาปาเช่ ขณะที่กองกำลังหลายหน่วยบินตามติดๆ กัน
คาดว่างานนี้มีทหารประมาณ 6,600 นาย เฮลิคอปเตอร์ 50 ลำ และรถถังต่อสู้เอ็ม1 เอบรามส์ 60 ตัน รวมถึงผู้เข้าร่วมงานที่คาดว่าจะมีประมาณ 200,000 คน และมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด
สมาชิกคณะรัฐมนตรีของทรัมป์ รวมถึงนายพีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม และนายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ ร่วมชมขบวนพาเหรดนี้เช่นกัน โดยทรัมป์แสดงความสนใจในการจัดขบวนพาเหรดทางทหารในกรุงวอชิงตันเป็นครั้งแรก ในช่วงต้นของวาระแรกของเขาในปี 2017-2021
...
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การเฉลิมฉลองดังกล่าวคาดว่าจะทำให้กองทัพสหรัฐฯ ใช้งบประมาณระหว่าง 25-45 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายในการจัดขบวนพาเหรด ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ ที่พัก และค่าอาหารสำหรับทหาร นักวิจารณ์กล่าวว่า ขบวนพาเหรดดังกล่าวเป็นการแสดงอำนาจแบบเบ็ดเสร็จที่สิ้นเปลือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทรัมป์กล่าวว่าต้องการลดต้นทุนในรัฐบาลกลาง
ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน มีผู้คนนับพันออกมาเดินขบวนในกรุงวอชิงตันและเมืองอื่นๆ เพื่อประท้วงนโยบายของทรัมป์ การชุมนุมส่วนใหญ่เป็นไปโดยสันติ และถือเป็นการต่อต้านประธานาธิบดีทรัมป์ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ทรัมป์กลับมามีอำนาจอีกครั้งในเดือนมกราคม
อย่างไรก็ตาม ในนครลอสแองเจลิส สถานการณ์ยังคงตึงเครียด ประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนเคอร์ฟิวในเขตตัวเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขี่ม้าได้ผลักดันผู้ประท้วงอย่างรุนแรงโดยใช้แก๊ส แฟลชแบงก์ และอาวุธอื่นๆ ที่ไม่เป็นอันตราย ทำให้กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนมากแตกตื่นและหลบหนี
ผู้ประท้วงได้ยิงพลุไฟใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วยก้อนหินและขวด ผู้ประท้วงบางคนสวมหน้ากากกันแก๊สและหมวกกันน็อค และประกาศว่าจะอยู่ในพื้นที่นั้นอีกหลายชั่วโมง ก่อนหน้านี้ ฝูงชนได้เผชิญหน้ากับทหารที่เฝ้าอาคารของรัฐบาลกลาง โดยตะโกนว่า "นาวิกโยธิน ออกไปจากแอลเอ!"
กลุ่มต่อต้านทรัมป์วางแผนการชุมนุมเกือบ 2,000 ครั้งทั่วประเทศเพื่อให้ตรงกับขบวนพาเหรด หลายงานจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "ไม่มีกษัตริย์" เพื่อยืนยันว่าไม่มีบุคคลใดอยู่เหนือกฎหมาย.
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign