การเคอร์ฟิวคืนแรกในนครลอสแอนเจลิสผ่านพ้นไปแล้ว ท่ามกลางความกังวลว่าการประท้วงต่อต้านการจับกุมผู้อพยพจะปะทุขึ้นมาอีกครั้ง แม้เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ชุมนุมไปหลายร้อยคนแล้วก็ตาม
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การเคอร์ฟิวคืนแรกในนครลอสแอนเจลิส เมื่อช่วงข้ามคืนวันอังคารเข้าสู่วันพุธที่ 11 มิ.ย. 2568 ผ่านพ้นไปแล้ว โดยเมืองแห่งนี้อยู่ในความสงบชั่วคราว แต่ยังคงมีความไม่สบายใจหลังเกิดการประท้วงต่อเนื่องมา 5 วัน ในขณะที่เมืองอื่นๆ ทั่วสหรัฐฯ ก็กำลังเตรียมรับมือการประท้วงที่อาจเกิดขึ้น
นับตั้งแต่เกิดการประท้วงในนครลอสแอนเจลิสเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ถูกตำรวจจับกุมไปแล้วเกือบ 500 ราย แบ่งเป็นผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย 330 คน และผู้ก่อเหตุโจมตีหรือขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจอีก 157 คน ในจำนวนนี้มี 1 คนที่ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าตำรวจด้วย โดยอัยการยื่นฟ้องผู้ต้องสงสัยไปแล้ว 2 ราย
การประท้วงที่เกิดขึ้นทำให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัดสินใจส่งทหารกองกำลังพิทักษ์ชาติ 4,000 นาย กับนาวิกโยธินอีก 700 นาย เข้าสู่ลอสแอนเจลิส เพื่อช่วยควบคุมเหตุความไม่สงบ ท่ามกลางเสียงต่อต้านจากผู้นำรัฐแคลิฟอร์เนียและนครลอสแอนเจลิส
ในวันพุธ น.ส.คาเรน แบส นายกเทศมนตรีลอสแอนเจลิส จัดงานแถลงข่าวร่วมกับนายกเทศมนตรีเมืองอื่นๆ ในแคลิฟอร์เนียจาก 30 เขต โดยเธอกล่าวโทษมาตรการบุกจับกุมผู้อพยพของนายทรัมป์ ว่าเป็นต้นเหตุของการประท้วง เนื่องจากการจับกุมดังกล่าวเป็นการยั่วยุประชาชนด้วยการสร้างความหวาดกลัวและความแตกตื่น
“เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนทุกอย่างยังสงบสุข” น.ส.แบสกล่าว “อะไรๆ เริ่มยากขึ้นในวันศุกร์ เมื่อการบุกจับกุมเกิดขึ้น” เธอบอกด้วยว่า ลอสแอนเจลิสคือส่วนหนึ่งของการทดลองแห่งชาติเพื่อตัดสินว่า รัฐบาลกลางจะสามารถยึดอำนาจจากรัฐบาลท้องถิ่น และจากอำนาจศาลท้องถิ่นได้มากแค่ไหน
...
ทั้งนี้ ในช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา ตำรวจลอสแอนเจลิสระบุว่า พวกเขาดำเนินการจับกุมผู้ชุมนุมได้เป็นจำนวนมาก หลังเกิดการประท้วงต่อต้านการจับผู้อพยพเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน โดยผู้ถูกจับกุมรวมถึง ผู้ชุมนุมที่ไม่ยอมสลายตัว 203 คน, ผู้ละเมิดคำสั่งเคอร์ฟิว 17 คน, ผู้ครอบครองอาวุธปืน 3 คน และผู้ก่อเหตุโจมตีเจ้าหน้าที่ด้วยอาวุธร้ายแรงถึงตาย 1 คน
แถลงการณ์ของตำรวจระบุด้วยว่า เหตุปะทะกันระหว่างการประท้วงทำให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย
เมื่อวันอังคาร (10 มิ.ย.) แบสประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวในช่วงข้ามคืนเข้าสู่วันพุธ เฉพาะพื้นที่เล็กๆ อาณาเขตเพียง 1 ตารางกิโลเมตร ในเขตใกล้กลางเมือง โดยให้เหตุผลว่า มีธุรกิจมากมายถูกบุกรุกและลักขโมยของ
หลังจากการเคอร์ฟิวเริ่มมีผลบังคับใช้ในเวลา 20.00 น.วันอังคาร (ตามเวลาท้องถิ่น) ตำรวจจำนวนมากก็เคลื่อนกำลังไปย่านดาวน์ทาวน์ และใช้กระสุนยางเพื่อสลายการชุมนุม
ในงานแถลงข่าวเมื่อวันพุธ แบสพูดถึงคำสั่งเคอร์ฟิวของเธอว่า เธอเพียงต้องการหยุดทำลายทรัพย์สิน หยุดการปล้น เนื่องจากเมืองของเธอมาถึงจุดหักเหแล้ว
ด้านนายจิม แมคดอนเนลล์ หัวหน้าตำรวจลอสแอนเจลิส กล่าวว่า จินตนาการบางอย่างเกี่ยวกับการประท้วง และภาพความรุนแรงที่ปรากฏออกมา ทำให้เกิดความคิดว่ากำลังเกิดวิกฤตขึ้นทั่วเมือง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ ขณะที่แพม บอนดี อัยการสูงสุดของสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า การเคอร์ฟิวช่วยได้บ้างเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม การบุกจับกุมผู้อพยพยังคงดำเนินต่อไป โดยมีทหารกองกำลังพิทักษ์ชาติเดินทางไปด้วย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่มีอำนาจจับกุมผู้อพยพ แต่พวกเขากับนาวิกโยธินสามารถควบคุมตัวผู้ประท้วงที่มาขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้
“พวกเขาถูกใช้งานอย่างเข้มงวดเพื่อปกป้องเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลาง ในขณะที่พวกเขาออกปฏิบัติการ และเพื่อปกป้องพวกเขาให้สามารถปฏิบัติภารกิจของรัฐบาลกลางได้” พลตรี สกอตต์ เชอร์แมน ผู้นำการส่งกำลังพลกล่าวในวันพุธ
ขณะเดียวกัน บทบาทของนายทรัมป์ต่อการประท้วงในลอสแอนเจลิสเพิ่มมากขึ้นหลังจากเขาส่งกองทัพเข้าแอลเอ โดยตอนนี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศกร้าวว่าเขาจะปลดปล่อยลอสแอนเจลิส และกล่าวหานายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียว่า กำลังโจมตีประชาธิปไตย
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา นายทรัมป์ออกมาปกป้องการตัดสินใจส่งกองทัพของเขาว่า ทำเพื่อป้องกันไม่ให้ลอสแอนเจลิสถูกยึดโดยศัตรูต่างชาติ
ส่วนนายนิวซัมออกมาตอบโต้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า “เป็นอีกครั้งที่เขา (ทรัมป์) เลือกที่จะทำให้สถานการณ์บานปลาย เขาเลือกใช้กำลังมากขึ้น” นายนิวซัมเตือนด้วยว่า “รัฐอื่นๆ จะเป็นรายต่อไป”
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc