สื่อของประเทศจีนเปิดเผยว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แล้ว นับเป็นการคุยกันโดยตรงครั้งแรกหลังนายทรัมป์ใช้ภาษีต่างตอบแทน

สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ต่อสายคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว ในวันพฤหัสบดีที่ 5 มิ.ย. 2568 โดยเป็นการสนทนาตามคำขอจากฝ่ายนายทรัมป์ โดยไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมว่าผู้นำทั้งสองคนพูดคุยกันเรื่องอะไรบ้าง

ด้านทำเนียบขาวสหรัฐฯ ยังไม่ออกมาเปิดเผยข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับสนทนาครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการพูดคุยกันโดยตรงระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับจีนเป็นครั้งแรก หลังจากนายทรัมป์เริ่มใช้มาตรการภาษีตอบโต้ (reciprocal tariff) จุดชนวนให้เกิดสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างทั้งสองประเทศ

ในตอนนี้ สหรัฐฯ กับจีนมีปัญหากันในหลายด้านรวมถึงเรื่องการค้าและวีซ่านักศึกษา นอกจากนั้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา พวกเขาต่างกล่าวหาอีกฝ่ายเรื่องการส่งออกแร่ธาตุสำคัญ ซึ่งอาจทำให้ข้อตกลงลดกำแพงภาษีอันเปราะบางระหว่างทั้งสองประเทศพังทลายลงได้

อนึ่ง เมื่อเดือนพฤษภาคม สหรัฐฯ กับจีนเห็นชอบร่วมกันที่จะลดกำแพงภาษีที่ต่างฝ่ายบังคับใช้ต่อสินค้านำเข้าของอีกฝ่ายลง 15% เป็นเวลา 90 วัน ซึ่งหมายความว่า ภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนของสหรัฐฯ จะลดลงเหลือ 30% ขณะที่ภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ของจีนจะลดลงเหลือ 10%

อย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ก่อน นายทรัมป์กล่าวหาจีนว่าละเมิดข้อตกลงลดกำแพงภาษีดังกล่าวอย่างสิ้นเชิง ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่า สหรัฐฯ เริ่มใช้มาตรการตั้งข้อจำกัดมากมายกับฝ่ายจีน รวมถึงการเพิกถอนวีซ่านักศึกษาจีนในสหรัฐฯ

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายทรัมป์ออกมาดับความหวังที่ว่าจะมีทางแก้อย่างรวดเร็วสำหรับปัญหานี้ โดยเขาระบุผ่าน Truth Social ว่า “ผมชอบประธานาธิบดีสีของจีนนะ ชอบมาตลอด และจะชอบตลอดไป แต่เขาทนทายาดมากและทำข้อตกลงด้วยยากมากๆ”

...

เมื่อถูกถามเรื่องข้อความของนายทรัมป์ นายหลิน เจียน โฆษกระทรวงต่างประเทศของจีนก็ตอบว่า หลักการและจุดยืนของจีนในการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ นั้นยังคงเข้มแข็ง

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cna