รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ล่าสุด ระบุประเด็นพื้นที่ 4 แห่งที่กัมพูชาได้นำยื่นฟ้องต่อศาลโลกแล้ว ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย. จะไม่รวมอยู่ในวาระการประชุม JBC ที่กำลังจะมาถึง ยืนยันกัมพูชายึดมั่นในสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศมาโดยตลอด

วันที่ 4 มิถุนายน 2568 รัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุด ที่ระบุว่ารัฐบาลได้ดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ยึดมั่นในสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างประเทศมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับประเทศเพื่อนบ้านที่เรามีพรมแดนร่วมกันมาตั้งแต่สมัยอาณานิคมฝรั่งเศส โดยมุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนพรมแดนร่วมเหล่านี้ให้เป็นเขตแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนา แม้จะมีความตึงเครียดเป็นครั้งคราวและเกิดความสูญเสียชีวิตของทหารผู้กล้าหาญหลายคนผู้ซึ่งยืนหยัดในการปกป้องอธิปไตยแห่งชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน

แถลงการณ์ระบุว่า ในการยุติข้อพิพาทอย่างสันติเป็นที่ประจักษ์ในประวัติศาสตร์ของการดำเนินการ รวมถึงการอ้างอิงข้อพิพาทไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ซึ่งนำไปสู่การตัดสินให้กัมพูชาชนะในปี 1962 และอีกครั้งในปี 2013 ในข้อพิพาทพรมแดนกับประเทศไทย การกระทำเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอย่างลึกซึ้งต่อกฎหมายระหว่างประเทศและการยุติข้อพิพาทอย่างสันติ

อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุรุนแรงในวันที่ 28 พฤษภาคม ที่ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย รัฐบาลกัมพูชาได้ยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการแล้ว และต่อมาในวันที่ 2 มิถุนายน รัฐบาลกัมพูชาได้ตัดสินใจที่จะส่งเรื่องข้อพิพาทเหนือพื้นที่เปราะบาง  4 แห่ง ได้แก่ ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย กับพื้นที่มุมไบ ไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก ซึ่งการตัดสินใจนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นเอกฉันท์จากรัฐสภาและวุฒิสภาในการประชุมร่วมกัน

...

แถลงการณ์ระบุว่า ในขณะที่กัมพูชากำลังดำเนินการทางกฎหมายที่ ICJ  รัฐบาลกัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะเจรจาและการทูต และมีส่วนร่วมผ่านกรอบทวิภาคีที่มีอยู่ และจะเป็นเจ้าภาพการประชุมร่วมของคณะกรรมาธิการเขตแดน (JBC) ครั้งต่อไปในวันที่ 14 มิถุนายน ที่กรุงพนมเปญ อย่างไรก็ตาม การส่งเรื่องไปยัง ICJ หมายความว่า 4 พื้นที่ที่กล่าวถึงข้างต้นจะไม่รวมอยู่ในวาระการประชุม JBC ที่กำลังจะมาถึง.