ชาวเนปาลหลายหมื่นรวมตัวกลางกรุงกาฐมาณฑุ เรียกร้องให้ฟื้นฟูระบอบกษัตริย์และอัญเชิญอดีตกษัตริย์กลับมาเป็นประมุขของประเทศอีกครั้ง พร้อมผลักดันให้ศาสนาฮินดูกลับมาเป็นศาสนาประจำชาติ
วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวเอพี รายงานว่า ชาวเนปาลหลายหมื่นคนออกมาชุมนุมครั้งใหญ่ใจกลางกรุงกาฐมาณฑุ โดยประชาชนได้ร่วมเดินขบวน พร้อมโบกธงชาติและตะโกนเรียกร้องให้ฟื้นฟูระบอบกษัตริย์ ซึ่งถูกยกเลิกไปเมื่อปี 2551 พร้อมเรียกร้องให้สถาปนาสมเด็จพระราชาธิบดีเกียรณทร กลับมาเป็นประมุขของรัฐอีกครั้ง
รายงานข่าวระบุว่า ผู้ชุมนุมจำนวนมากยังเรียกร้องให้มีการฟื้นฟูสถานะของศาสนาฮินดูให้กลับมาเป็นศาสนาประจำชาติของเนปาล โดยบางส่วนเล่นดนตรีพื้นบ้านประกอบการชุมนุม พร้อมตะโกนว่า จงนำกษัตริย์กลับสู่บัลลังก์เพื่อกอบกู้ประเทศ และเรารักในหลวงของเรายิ่งกว่าชีวิต
ในเวลาเดียวกัน กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลนายกรัฐมนตรีคัดห์กา ปราสาท โอลี ได้จัดกิจกรรมเฉลิมฉลองวันสาธารณรัฐ ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าอาจเกิดการปะทะระหว่างสองฝ่าย อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนหลายร้อยนายได้เข้าประจำพื้นที่ พร้อมกำหนดเวลาให้ทั้งสองกลุ่มชุมนุมต่างเวลากันเพื่อป้องกันความวุ่นวาย
หนึ่งในแกนนำผู้สนับสนุนระบอบกษัตริย์ ระบุว่า การประท้วงครั้งนี้จะดำเนินต่อไปจนกว่าระบอบกษัตริย์ที่มีมาหลายร้อยปีจะกลับคืนสู่ประเทศ และเนปาลจะกลายเป็นรัฐฮินดูอีกครั้ง
การประท้วงครั้งนี้ถือเป็นการกลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้งของกลุ่มราชนิยม หลังจากมีการจัดการชุมนุมใหญ่เมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งเหตุการณ์ในวันนั้นรุนแรงถึงขั้นมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ หลังกลุ่มผู้ชุมนุมจุดไฟเผาอาคารบางแห่ง ขณะที่ตำรวจยิงกระสุนจริงและแก๊สน้ำตาเพื่อสลายการชุมนุม
...
ตลอดช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กระแสเรียกร้องให้กษัตริย์กลับคืนสู่อำนาจเริ่มรุนแรงขึ้น กลุ่มราชนิยมมองว่ารัฐบาลและพรรคการเมืองหลักในประเทศล้มเหลวในการบริหาร และเต็มไปด้วยปัญหาคอร์รัปชัน จนประชาชนเริ่มหมดศรัทธาในระบอบสาธารณรัฐ
ทั้งนี้ พระเจ้ากษัตริย์เกียรณทร เคยถูกกดดันให้สละอำนาจแบบเผด็จการจากการชุมนุมใหญ่เมื่อปี 2549 และรัฐสภาเนปาลมีมติยกเลิกระบอบกษัตริย์ในปี 2551ทำให้พระองค์ต้องออกจากพระราชวังไปใช้ชีวิตแบบประชาชนทั่วไป ซึ่งจนถึงขณะนี้ พระองค์ยังไม่เคยออกมาแสดงความเห็นต่อกระแสเรียกร้องให้กลับคืนสู่อำนาจ อย่างไรก็ตามแม้การสนับสนุนต่อระบอบกษัตริย์จะเพิ่มขึ้น แต่โอกาสที่อดีตกษัตริย์จะกลับมามีอำนาจในเร็วๆ นี้ยังคงริบหรี่ เนื่องจากยังขาดการสนับสนุนในระดับรัฐสภาและระบบการเมืองโดยรวม.