โลกร้อน ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ละลายตัวถล่มทับหมู่บ้านในหุบเขาสวิตเซอร์แลนด์ อพยพชาวบ้านทันกว่า 300 คน แต่ยังมีผู้สูญหาย 1 ราย
วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า เกิดเหตุธารน้ำแข็งขนาดมหึมาบริเวณ "ธารเบิร์ช" (Birch glacier) พังทลายลงมาตามหุบเขา ส่งผลให้หมู่บ้านแบลทเทิน ทางตอนใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ถูกถล่มทับกลืนหายไปในพริบตา บ้านเรือนหลายหลังถูกฝังกลบจนราบเป็นหน้ากลอง มีรายงานตัวเลขผู้สูญหาย 1 ราย แม้เจ้าหน้าที่จะอพยพประชาชนกว่า 300 คนออกจากพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 19 พฤษภาคม หลังนักธรณีวิทยาเตือนถึงความไม่ปลอดภัยของธารน้ำแข็ง
ภาพโดรนที่เผยแพร่เมื่อเวลา 15.30 น.ตามเวลาท้องถิ่นของ วันที่ 22 พฤษภาคม แสดงให้เห็นชัดว่าธารน้ำแข็งขนาดใหญ่พังครืนลงมาจากภูเขา พร้อมโคลนมหาศาลที่ไหลลงมาถล่มหมู่บ้านเบื้องล่าง เสียงดังกึกก้องไปทั่วหุบเขา ก่อนที่กลุ่มฝุ่นควันมหึมาจะลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ
นายแมทเธียส เบลวัลด์ นายกเทศมนตรีเมืองแบลทเทิน กล่าวทั้งน้ำตาว่า สิ่งที่ไม่น่าเชื่อได้เกิดขึ้นจริง นับเป็นความสูญเสียอย่างมหาศาล พร้อมยืนยันว่าแม้หมู่บ้านจะไม่เหลือ แต่ชุมชนจะไม่ทิ้งกัน และจะยืนหยัดต่อไป โดยทางการท้องถิ่นได้ขอความช่วยเหลือจากกองทัพสวิสในภารกิจกู้ภัยและบรรเทาสาธารณภัย ขณะเดียวกัน สมาชิกสภารัฐบาลกลางกำลังเดินทางลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ทางด้านนายราฟาเอล มาโยราซ หัวหน้าหน่วยจัดการภัยพิบัติธรรมชาติของภูมิภาค เตือนว่าชุมชนใกล้เคียงอาจต้องอพยพเพิ่มเติม หากพบความเสี่ยงที่ธารน้ำแข็งจะพังถล่มอีก เนื่องจากผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่ทำให้ธารน้ำแข็งทั่วเทือกเขาแอลป์ละลายเร็วขึ้น และเพอร์มาฟรอสต์ หรือดินเยือกแข็งที่ช่วยยึดโครงสร้างภูเขาก็เริ่มละลายตามไปด้วย
...
ขณะเดียวกัน หน่วยงานธารน้ำแข็งสวิตเซอร์แลนด์ เปิดเผยข้อมูลล่าสุดชี้ว่า หากอุณหภูมิโลกยังเพิ่มเกิน 1.5 องศาเซลเซียสตามข้อตกลงปารีส ธารน้ำแข็งในประเทศอาจหายไปทั้งหมดภายในศตวรรษนี้ ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อเหตุน้ำท่วม ดินถล่ม และหายนะธรรมชาติอีกมากมายในอนาคต.