หัวหน้าฝ่ายการค้าของสหภาพยุโรป ยืนยันว่าสมาชิกทั้ง 27 ประเทศของพวกเขาต้องการทำข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ บนพื้นฐานของ “ความเคารพ” ไม่ใช่ “คำขู่”
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายมารอส เซฟโควิช กรรมาธิการด้านการค้าของสหภาพยุโรป หลังโทรศัพท์คุยกับนายเจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนด้านการค้าของสหรัฐฯ กับนายฮาวาร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ที่ 23 พ.ค. 2568 หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจาก EU ในอัตรา 50%
“EU ตั้งใจและมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการทำข้อตกลงที่ได้ผลสำหรับทั้งสองฝ่าย” นายเซฟโควิชกล่าว “การค้าระหว่าง EU กับสหรัฐฯ ไม่มีใครเทียบได้ และต้องถูกชี้นำด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ใช่คำขู่ เราพร้อมที่จะปกป้องผลประโยชน์ของเรา”
ก่อนหน้านี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาแสดงความไม่พอใจกับความเร็วในการเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับ EU โดยกล่าวว่า เขาวางแผนจะตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจาก EU 50% ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้
“การหารือของเรากับ EU ไม่ไปไหนเลย” นายทรัมป์ระบุในโพสต์บน Truth Social พร้อมเสริมว่าจะไม่ตั้งกำแพงภาษีกับสินค้าที่สร้างหรือผลิตในสหรัฐฯ ก่อนที่นายทรัมป์จะบอกกับนักข่าวในเวลาต่อมาว่า “เราไม่ได้กำลังมองหาข้อตกลง เราทำข้อตกลง” และการลงทุนก้อนโตของบริษัทยุโรปในสหรัฐฯ อาจทำให้เขาเลื่อนการตั้งกำแพงภาษีออกไปได้
ทั้งนี้ สหภาพยุโรปเป็นหนึ่งในคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ โดยพวกเขาส่งออกสินค้ามูลค่ากว่า 6 แสนล้านดอลลาร์เข้าสู่สหรัฐฯ และซื้อสินค้ามูลค่า 3.7 แสนล้านดอลลาร์จากสหรัฐฯ ในปี 2567
ด้านนายไมเคิล มาร์ติน นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ ออกมาตอบสนองต่อคำขู่ของนายทรัมป์ โดยระบุว่า การขึ้นกำแพงภาษีจะสร้างความเสียหายต่อทั้งสองฝ่าย “เราไม่จำเป็นต้องเดินไปบนเส้นทางนี้ การเจรจาเป็นวิธีที่ดีที่สุดและเป็นการก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนที่สุด”
...
นายโลรองต์ แซงค์-มาร์แตง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าของฝรั่งเศส กล่าวว่า เรายังคงยึดมั่นในแนวทางเดิม คือการลดความตึงเครียดของสถานการณ์ แต่เราพร้อมที่จะตอบสนอง
ส่วน น.ส.คาเทอรินา ไรเชอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนี กล่าวว่า EU ต้องทำทุกอย่างเพื่อบรรลุทางออกกับสหรัฐฯ ขณะที่นายดิ๊ก ชคูฟ นายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์บอกกับผู้สื่อข่าวว่า เขาสนับสนุนยุทธศาสตร์ของ EU ในการเจรจา และเราเคยเห็นมาก่อนแล้วว่า กำแพงภาษีสามารถเพิ่มขึ้นและลดลงได้ในการพูดคุยกับสหรัฐฯ
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc