โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศจะขึ้นภาษีนำเข้าจากยุโรป และสินค้าจาก Apple หากยังไม่ย้ายฐานการผลิตกลับประเทศ หวั่นเป็นการจุดชนวนสงครามการค้าอีกรอบ
วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความบน Truth Social ประกาศขู่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสูงถึง 50% กับสินค้าทุกชนิดจากสหภาพยุโรป (EU) และ 25% กับผลิตภัณฑ์ของ Apple หากยังไม่มีการย้ายฐานการผลิต iPhone กลับมายังสหรัฐฯ
ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า การเจรจากับอียูไม่มีความคืบหน้า พร้อมประกาศว่าได้เสนอให้เริ่มเก็บภาษี 50% กับ EU ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ปีนี้ โดยยืนยันว่าจะไม่มีการเก็บภาษี หากสินค้าเหล่านั้นผลิตหรือประกอบภายในสหรัฐฯ
โดยนโยบายใหม่นี้ทำให้สินค้าจากกลุ่มพันธมิตรเก่าแก่ของสหรัฐฯ อย่าง EU ต้องเผชิญภาษีสูงกว่าสินค้าจากจีน ซึ่งเพิ่งถูกลดภาษีนำเข้าลงมาเหลือ 30% เพื่อเปิดทางสู่การเจรจาระหว่างสองประเทศ แม้ที่ผ่านมาทรัมป์จะอ้างว่านโยบายภาษีของเขาเป็นการกดดันจีนและหาทางเจรจาใหม่กับพันธมิตร แต่คำขู่ล่าสุดกลับสร้างความสับสนต่อกลยุทธ์ดังกล่าว เพราะ EU อาจตกอยู่ในสถานะเสียเปรียบกว่าจีน ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า กลยุทธ์ของ EU เองก็ล้มเหลวเช่นกัน
ทางด้านนายมาร์เซล ฟรัตเชอร์ นักเศรษฐศาสตร์เยอรมนี ให้ระบุว่า กลยุทธ์ของคณะกรรมาธิการยุโรปและเยอรมนีในความขัดแย้งทางการค้ากับทรัมป์นั้นล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และเป็นความล้มเหลวที่ทุกคนมองออกตั้งแต่ต้น ซึ่งทรัมป์มองเห็นความลังเลและการประนีประนอมของยุโรปเป็นจุดอ่อน
ขณะที่ก่อนหน้านี้ EU ได้พยายามเสนอให้ยกเลิกภาษีนำเข้าทั้งหมดแบบค่อยเป็นค่อยไป แต่ทรัมป์ยังคงยืนกรานเก็บภาษี 10% เป็นฐานกับสินค้าส่วนใหญ่ ก่อนนำมาสู่การตัดสินใจยกระดับความตึงเครียดในครั้งนี้ ซึ่งหากมีการเก็บภาษีตามประกาศจริง อาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในสหรัฐฯ รวมถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ กับยุโรปในระยะยาว.
...