อิสราเอลระบุว่าได้อนุญาตให้รถบรรทุกของสหประชาชาติ 5 คัน บรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงอาหารเด็ก เข้าไปในฉนวนกาซา หลังจากถูกปิดล้อมนาน 11 สัปดาห์

อิสราเอลระบุว่าได้อนุญาตให้รถบรรทุกของสหประชาชาติ 5 คัน บรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงอาหารเด็ก เข้าไปในฉนวนกาซา หลังจากถูกปิดล้อมนาน 11 สัปดาห์

หัวหน้าฝ่ายมนุษยธรรมของสหประชาชาติแสดงความยินดีกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว แต่เน้นย้ำว่าเป็นเพียง "หยดน้ำในมหาสมุทรเมื่อเทียบกับสิ่งที่ชาวปาเลสไตน์ 2.1 ล้านคนในดินแดนที่ได้รับผลกระทบจากสงครามต้องการอย่างเร่งด่วน" ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเตือนว่ากำลังเผชิญกับภาวะอดอยาก

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวว่าการตัดสินใจอนุญาตให้มีอาหาร "ในปริมาณเล็กน้อย" เข้าชั่วคราวนั้นเป็นผลมาจากแรงกดดันจากพันธมิตรในวุฒิสภาสหรัฐฯ เขาย้ำในวิดีโอตอบโต้คำวิจารณ์การเคลื่อนไหวดังกล่าวในอิสราเอลว่า "เราต้องไม่ให้เกิดภาวะอดอยาก ทั้งในเชิงปฏิบัติและการทูต"

เนทันยาฮูกล่าวว่าการส่งอาหารจะยังคงดำเนินต่อไป จนกว่ากองทัพอิสราเอลและบริษัทเอกชนจะตั้งศูนย์กลางเพื่อแจกจ่ายความช่วยเหลือภายใต้แผนที่สหรัฐฯ สนับสนุน แต่สหประชาชาติปฏิเสธ นอกจากนี้ เขายังประกาศว่ากองกำลังอิสราเอลจะยึดครองพื้นที่ทั้งหมดในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายการโจมตีภาคพื้นดินต่อกลุ่มฮามาสที่กองทัพอิสราเอลเริ่มเมื่อวันอาทิตย์ (18 พ.ค.)

ขณะเดียวกัน การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลได้สังหารผู้คนอย่างน้อย 40 รายทั่วทั้งฉนวนกาซาเมื่อวันจันทร์ ตามรายงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัยและโรงพยาบาล มีรายงานว่าการโจมตีครั้งหนึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 5 รายในโรงเรียนที่ใช้เป็นที่พักพิงสำหรับครอบครัวที่พลัดถิ่นในค่ายผู้ลี้ภัยนูเซย์รัต ในใจกลางฉนวนกาซา

...

กองทัพอิสราเอลกล่าวว่าได้โจมตี "ผู้ก่อการร้ายฮามาส" ซึ่งปฏิบัติการอยู่ภายในศูนย์ควบคุมและสั่งการในพื้นที่ กองทัพอิสราเอลยังสั่งอพยพผู้คนออกจากเมืองคานยูนิสทางตอนใต้และชานเมืองทางตะวันออกของเมือง พร้อมเตือนประชาชนว่ากำลังจะเปิดฉาก "การโจมตีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" ที่นั่น

อิสราเอลหยุดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและเสบียงเชิงพาณิชย์ทั้งหมดไปยังฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 2 มีนาคม และกลับมาเปิดฉากโจมตีทางทหารอีกครั้งในอีกสองสัปดาห์ต่อมา ถือเป็นการยุติการหยุดยิงกับกลุ่มฮามาสเป็นเวลาสองเดือน รายงานระบุว่าขั้นตอนดังกล่าวมีขึ้นเพื่อกดดันให้กลุ่มติดอาวุธปล่อยตัวตัวประกันที่ยังถูกกักขังอยู่ในฉนวนกาซา

รายงานยังระบุว่าการโจมตีทางอากาศและปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลที่กลับมาดำเนินการอีกครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,000 รายและทำให้ผู้คนอีก 400,000 รายต้องพลัดถิ่นฐาน ขณะที่สหประชาชาติระบุว่าการปิดล้อมดังกล่าวทำให้เกิดการขาดแคลนอาหาร ยารักษาโรค และเชื้อเพลิงอย่างรุนแรง

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงสาธารณสุขที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮามาสรายงานว่ามีเด็กเสียชีวิต 57 รายจากผลกระทบของภาวะทุพโภชนาการในช่วง 11 สัปดาห์ที่ผ่านมา และการประเมินโดย Integrated Food Security Phase Classification (IPC) ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหประชาชาติเตือนว่าประชาชนกว่าครึ่งล้านคนกำลังเผชิญกับภาวะอดอาหาร

สหประชาชาติกล่าวว่าอิสราเอลมีหน้าที่ตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศในการจัดหาอาหารและยาให้แก่ชาวฉนวนกาซา เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวว่าไม่มีการขาดแคลนความช่วยเหลือเนื่องจากรถบรรทุกหลายพันคันบรรทุกเข้าไปในฉนวนกาซาระหว่างการหยุดยิง เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวหาว่ากลุ่มฮามาสขโมยเสบียง ซึ่งกลุ่มฮามาสปฏิเสธ

แต่หลังจากแรงกดดันจากพันธมิตรของอิสราเอลเพิ่มขึ้น สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้ประกาศเมื่อคืนวันอาทิตย์ว่าจะ "อนุญาตให้มีการนำอาหารจำนวนหนึ่งเข้ามาสำหรับประชาชน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีวิกฤตการณ์อดอาหารเกิดขึ้นในฉนวนกาซา"

ในวิดีโอที่โพสต์บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันจันทร์เพื่อตอบโต้คำวิจารณ์ดังกล่าว เนทันยาฮูไม่ได้ให้เหตุผลด้านมนุษยธรรมเมื่อเขาอธิบายถึงการตัดสินใจอนุญาตให้ส่งอาหารบางส่วนเข้ามา "ตั้งแต่เริ่มสงคราม เราเคยพูดไว้ว่าเพื่อที่จะได้รับชัยชนะ เพื่อเอาชนะฮามาสและปลดปล่อยตัวประกันทั้งหมดของเรา ซึ่งเป็นภารกิจสองอย่างที่เชื่อมโยงกัน มีเงื่อนไขที่จำเป็นอย่างหนึ่ง: เราต้องไม่ประสบกับสถานการณ์อดอยาก ทั้งจากมุมมองเชิงปฏิบัติและการทูต"

เขากล่าวว่า เขาได้ขัดขวางการส่งความช่วยเหลือผ่านสหประชาชาติและองค์กรด้านมนุษยธรรมอื่นๆ เนื่องจากฮามาสปล้นสะดม และตอนนี้เขากำลังใช้วิธีการอื่น ที่เกี่ยวข้องกับองค์กรนอกภาครัฐที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ นั่นก็คือ Gaza Humanitarian Foundation ซึ่งแจกจ่ายความช่วยเหลือจากศูนย์กลางที่ได้รับการคุ้มครองโดยผู้รับเหมาด้านความปลอดภัยและกองกำลังป้องกันอิสราเอล.

ที่มา BBC

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign