ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวในเสียมราฐ แสดงความวิตกกังวลอย่างหนัก จากเหตุการณ์ฟ้าผ่ากลางนครวัด คร่า 3 ศพ บาดเจ็บนับสิบ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว พร้อมเรียกร้องตั้งมาตรการป้องกันฟ้าผ่าหรือภัยธรรมชาติอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับโบราณสถานสำคัญ ขณะที่ทางการกัมพูชายืนยันไม่ได้ห้ามสื่อมวลชนรายงานข่าว
วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานว่า จากเหตุสลดฟ้าผ่ากลางปราสาทนครวัด มรดกโลกที่สำคัญของกัมพูชา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บหลายสิบราย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ล่าสุดทางผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวในเสียมราฐ เริ่มออกมาแสดงความกังวลว่า เหตุการณ์นี้อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเดินทางมายังกัมพูชา
จากคลิปวิดีโอในโลกโซเชียลที่แพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว เห็นภาพเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งเข้าพื้นที่และลำเลียงผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดเสียมราฐเข้าติดตามดูอาการถึงโรงพยาบาล
โดยนายเคียว ตี นายกสมาคมมัคคุเทศก์นครวัด กล่าวว่า แม้จะเกิดเหตุในช่วงโลว์ซีซัน แต่พวกเราก็กังวลมาก เพราะภาคการท่องเที่ยวของเรายังเปราะบาง ไม่แข็งแกร่งเท่าประเทศเพื่อนบ้าน เรากลัวว่านักท่องเที่ยวจะยกเลิกการเดินทางเพราะเหตุการณ์ฟ้าผ่าครั้งนี้ พร้อมกันนี้เขายังเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งศึกษาสาเหตุของเหตุการณ์ พร้อมจัดตั้งระบบเตือนภัยและมาตรการป้องกันฟ้าผ่าหรือภัยธรรมชาติอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับโบราณสถานสำคัญ
ขณะที่ตัวแทนบริษัททัวร์รายหนึ่งที่ไม่ขอเปิดเผยชื่อ เผยว่า มีข่าวลือในโซเชียลว่าที่นครวัดไม่ใช่ฟ้าผ่าแต่เป็นระเบิด ซึ่งแม้จะไม่มีมูลความจริง แต่หากไม่ควบคุมข่าวลือเหล่านี้ ก็อาจสร้างผลกระทบร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและเศรษฐกิจภาพรวม
...
ขณะที่นายฮวด ฮัก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของกัมพูชา ได้โพสต์ขอบคุณประชาชนที่ไม่เผยแพร่ข้อมูลด้านลบที่อาจกระทบภาคการท่องเที่ยวของประเทศ
อย่างไรก็ตาม สื่อต่างประเทศ รวมถึงไทยได้เผยแพร่ข่าวเหตุการณ์นี้ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากหน่วยงาน Apsara National Authority (ANA) ซึ่งเป็นผู้ดูแลโบราณสถานนครวัด หรือจากทางรัฐบาลกัมพูชา โดยนายลอง โกศล โฆษก ANA ปฏิเสธให้ข้อมูลโดยอ้างว่า ยังไม่ทราบรายละเอียดเพียงพอ
ทางด้านนายเพน โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า นครวัดควรเป็นข้อยกเว้น เพราะเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ระดับชาติ แม้ไม่มีการรายงานข่าวนี้ก็ไม่เป็นไร ก่อนจะชี้แจงภายหลังว่า รัฐบาลไม่ได้ห้ามสื่อมวลชนรายงานข่าวแต่อย่างใด
ในขณะเดียวกัน นายยาน เรกสมัย อาจารย์ประวัติศาสตร์ศิลปะและโลก จาก NUM International College ระบุว่า เหตุการณ์ฟ้าผ่าที่นครวัดถือเป็นสัญญาณเตือนอย่างแรงว่า โบราณสถานสำคัญของประเทศยังขาดการป้องกันภัยธรรมชาติอย่างเหมาะสม แม้ยูเนสโกจะไม่มีข้อกำหนดเฉพาะเรื่องระบบป้องกันฟ้าผ่าสำหรับมรดกโลก แต่หน่วยงานดูแลโบราณสถานก็ควรมีมาตรการรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว
เขากล่าวว่า โศกนาฏกรรมครั้งนี้ไม่ควรถูกมองข้าม และควรเป็นแรงผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำแผนยุทธศาสตร์เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอยต่อไป ขณะเดียวกันการตอบสนองของหน่วยงานรัฐ และความโปร่งใส คือหัวใจสำคัญ ซึ่งเขามองว่าภาครัฐไม่ควรปิดบังหรือหลีกเลี่ยงความจริง แต่ควรแสดงความรับผิดชอบและยกระดับมาตรการความปลอดภัยให้เข้มงวดยิ่งขึ้น.
ที่มา Khmer Times