รูปปั้นสัมฤทธิ์ของเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ ใกล้บ้านเกิดของเธอในประเทศสโลวีเนีย ถูกขโมย หรือ 5 ปี หลังจากรูปปั้นดังกล่าวถูกสร้างขึ้นใหม่แทนที่รูปปั้นไม้ที่ได้รับความเสียหายจากการลอบวางเพลิง
รูปปั้นสัมฤทธิ์ของเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐฯ ใกล้บ้านเกิดของเธอในประเทศสโลวีเนีย ถูกขโมย หรือ 5 ปี หลังจากรูปปั้นดังกล่าวถูกสร้างขึ้นใหม่แทนที่รูปปั้นไม้ที่ได้รับความเสียหายจากการลอบวางเพลิง
ตำรวจสโลวีเนียเปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการโจรกรรมในหมู่บ้านรอซโน ซึ่งเป็นที่ตั้งของรูปปั้นดังกล่าว เมื่อวันอังคาร (13 พ.ค.)
โฆษกตำรวจ กล่าวในแถลงการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและรวบรวมข้อมูล และผู้พิพากษาที่ทำการสอบสวนและอัยการประจำเขตได้รับแจ้งเกี่ยวกับการโจรกรรมดังกล่าวแล้ว แต่ทางการไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
ภาพถ่ายที่เผยแพร่ในสื่อท้องถิ่นของสโลวีเนียแสดงให้เห็นว่ารูปปั้นถูกเลื่อยออก เหลือเพียงเท้าและข้อเท้าที่ติดอยู่กับลำต้นไม้ที่รูปปั้นตั้งอยู่
รูปปั้นดังกล่าวตั้งอยู่ริมแม่น้ำใกล้เมืองเซฟนิตซา เมืองเล็กๆ ห่างจากกรุงลูบลิยานา เมืองหลวงของสโลวีเนียไปทางทิศตะวันออกประมาณ 90 กิโลเมตร
ก่อนที่รูปปั้นสัมฤทธิ์นี้จะถูกขโมย รูปปั้นไม้ดั้งเดิมถูกเผาในเดือนกรกฎาคม 2020 โดยกลุ่มอันธพาล รูปปั้นนี้ถูกเผาจนไหม้เกรียมและถูกนำออกจากฐานก่อนที่จะนำไปจัดแสดงที่หอศิลป์ในเมืองโคเปอร์ของสโลวีเนียในปีเดียวกัน และในนิทรรศการที่โครเอเชียในปี 2023
แบรด ดาวนีย์ ศิลปิน กล่าวว่าเขาตั้งใจจะสร้างรูปปั้นสัมฤทธิ์เพื่อจัดแสดงในสถานที่ของสถาบันต่างๆ แต่ตัดสินใจใช้รูปปั้นนี้แทนรูปปั้นไม้หลังจากที่ถูกเผาจนไหม้เกรียม เดิมที ดาวนีย์ได้รับมอบหมายให้สร้างรูปปั้นไม้ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากศิลปินเชิงความคิดในท้องถิ่น Ales Zupevc ซึ่งเกิดในโรงพยาบาลเดียวกันและในปีเดียวกับเมลาเนีย ทรัมป์
...
โดยรูปปั้นเชิงนามธรรมของสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งในชุดสีฟ้าอ่อนที่เธอสวมไปงานพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรก ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในปี 2017 ได้รับความคิดเห็นที่หลากหลายจากคนในท้องถิ่น
เซฟนิตซาเป็นเมืองเงียบสงบ ที่มีประชากรเพียง 5,000 คน ซึ่งมีชื่อเสียงจากการเป็นเมืองบ้านเกิดของเมลาเนีย ด้วยการเป็นเมืองท่องเที่ยวและยังจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเมลาเนีย เช่น น้ำผึ้ง ช็อกโกแลต และเค้กอีกด้วย.
ที่มา CNN
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign