เด็กหญิงวัย 2 ขวบชาวเวเนซูเอลา เดินทางถึงกรุงการากัสเมื่อวันพุธและกลับสู่อ้อมอกแม่อีกครั้ง หลังจากถูกทางการสหรัฐฯแยกจากพ่อแม่เพื่อส่งตัวแม่กลับประเทศ และส่งตัวพ่อเข้าคุก ซึ่งรัฐบาลเวเนซุเอลาประณามว่าเป็นการลักพาตัว

ไมเคลิส เอสปิโนซา เดินทางมาถึงสนามบินชานกรุงการากัสพร้อมกับผู้อพยพที่ถูกส่งกลับเวเนซุเอลากว่า 220 คน

โดยภาพที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ของรัฐเผยให้เห็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของเวเนซุเอลา ซิเลีย ฟลอเรส อุ้มไมเคลิสที่สนามบิน และต่อมาได้ส่งมอบตัวเด็กหญิงให้กับแม่ของเธอ ซึ่งรอรับอยู่ที่ทำเนียบประธานาธิบดี พร้อมกับประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร

นายมาดูโรกล่าวว่า เขาต้องขอขอบคุณเอกอัครราชทูต ริช เกรเนลล์ ผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้ และฝากคำขอบคุณผ่านท่านเกรเนลล์ ไปยังประธานาธิบดีทรัมป์ด้วย พร้อมกล่าวว่านี่เป็นการกระทำที่มีมนุษยธรรมอย่างลึกซึ้ง โดยเกรเนลล์ได้พบกับมาดูโรที่กรุงการากัสไม่นานหลังจากทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง

...

รัฐบาลสหรัฐฯ เคยระบุว่า การแยกเด็กหญิงออกจากพ่อแม่นั้นมีเหตุผล เนื่องจากพ่อแม่ของเธอถูกกล่าวหาว่ามีความเชื่อมโยงกับแก๊ง เตรน เด อารากัว ซึ่งมีฐานในเวเนซุเอลา โดยแก๊งนี้เพิ่งถูกประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศให้เป็นองค์กรก่อการร้ายเมื่อต้นปีนี้

มีรายงานว่าแม่ของเด็กหญิงถูกส่งตัวกลับเวเนซุเอลาเมื่อวันที่ 25 เมษายน ขณะที่ทางการสหรัฐฯ ส่งพ่อของเธอไปยังเรือนจำความมั่นคงสูงสุดในเอลซัลวาดอร์ตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยอาศัยกฎหมายสมัยสงครามในศตวรรษที่ 18 ซึ่งทรัมป์นำกลับมาใช้ในการส่งตัวผู้อพยพจำนวนมากกลับประเทศ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลมาดูโรมักปฏิเสธการรับตัวผู้อพยพที่ถูกส่งกลับจากสหรัฐฯ แต่ตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อต้นปีนี้ มีชาวเวเนซุเอลาหลายร้อยคน รวมถึงราว 180 คนที่เคยถูกกักตัวที่ฐานทัพเรือสหรัฐฯ ในอ่าวกวนตานาโม ประเทศคิวบา เป็นเวลานานถึง 16 วัน ถูกส่งกลับประเทศ

ฝ่ายบริหารของทรัมป์ระบุว่าชาวเวเนซุเอลาที่ถูกส่งไปกวนตานาโมและเอลซัลวาดอร์เป็นสมาชิกของกลุ่มอาชญากรรม เตรน เด อารากัว แต่ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนสนับสนุนข้อกล่าวหา.

ที่มา : AP

คลิกอ่านข่าวเกี่ยวกับ เวเนซูเอลา