- คณะพระคาร์ดินัลเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ได้แล้ว โดยเลือกชาวอเมริกันเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และพระองค์เลือกใช้พระนามว่า โป๊ปเลโอ ที่ 14
- โป๊ปเลโอ ที่ 14 หรือพระนามเดิมคือ โรเบิร์ต เพรวอสต์ เป็นชาวอเมริกันแต่ใช้เวลาส่วนใหญ่ทำหน้าที่นักบวชในเปรูจนได้สัญชาติ และได้รับการแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัลโดยโป๊ปฟรานซิส
- คาดกันว่า โป๊ปเลโอ ที่ 14 จะสานต่องานหลายอย่างของโป๊ปฟรานซิส รวมถึงเรื่องผู้อพยพและผู้ยากไร้ แต่ดูเหมือนพระองค์จะมีความเห็นต่างในเรื่องการสมรสของคนเพศเดียวกัน
คณะพระคาร์ดินัลแห่งคริสตจักรคาทอลิกเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ได้สำเร็จแล้ว ในการโหวตรอบที่ 4 ในการประชุมคอนเคลฟวันที่ 2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 พ.ค. 2568 โดยพวกเขาเลือกพระคาร์ดินัล โรเบิร์ต เพรวอสต์ อายุ 69 ปี ให้เป็นประมุขศาสนจักรองค์ที่ 267 และจะเป็นที่รู้จักในชื่อ โป๊ปเลโอ ที่ 14
บาทหลวงเพรวอสต์กลายเป็นชาวอเมริกันคนแรกในประวัติศาสตร์อันยาวนานที่ได้รับตำแหน่งพระสันตะปาปา ถึงแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะถือว่าเขาเป็นพระคาร์ดินัลจากชาติลาตินอเมริกาก็ตาม เนื่องจากเขาใช้เวลาหลายปีในการเผยแพร่ศาสนาในประเทศเปรู และได้เป็นบิชอปที่นั่น

...
ประวัติพระสันตะปาปาองค์ใหม่ โรเบิร์ต เพรวอสต์ เป็นใคร?
โรเบิร์ต เพรวอสต์ เกิดที่เมืองชิคาโก ของสหรัฐฯ ในปี 2498 จากพ่อแม่ชาวสเปนและมีเชื้อสายฝรั่งเศส-อิตาลี ในวัยเยาว์ เพรวอสต์ทำหน้าที่เป็นเด็กผู้ช่วยพระทำพิธีในโบสถ์ และบวชเป็นบาทหลวงในปี 2525 และย้ายไปอยู่เปรูในอีก 3 ปีต่อมา อย่างไรก็ตาม บาทหลวงเพรวอสต์เดินทางกลับสหรัฐฯ เป็นประจำเพื่อทำหน้าที่ในเมืองบ้านเกิดของเขา
บาทหลวงเพรวอสต์ได้รับสัญชาติเปรูและถูกจดจำในฐานะผู้ทำงานร่วมกับชุมชนที่คนอื่นไม่ให้ความสำคัญ และช่วยสร้างสะพานเชื่อมระหว่างผู้คน โดยเขาใช้เวลา 10 ปีในฐานะบาทหลวงท้องถิ่นและเป็นครูที่โรงเรียนสอนศาสนาในเมืองทรูจิลโล ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเปรู
ในการมีพระราชดำรัสครั้งแรกในฐานะสันตะปาปา โป๊ปเลโอ ที่ 14 ได้ยกย่องโป๊ปฟรานซิส พระสันตะปาปาองค์ก่อนผู้สิ้นพระชนม์ในวันที่ 21 เม.ย. โดยระบุว่า “เรายังได้ยินอยู่ในหูอยู่เลย เสียงอันก้องแรงแต่กล้าหาญเสมอของโป๊ปฟรานซิส ที่อวยพรพวกเราในวันสุดท้าย”
โป๊ปฟรานซิสเป็นผู้แต่งตั้งบาทหลวงเพรวอสต์เป็นบิชอปแห่งชิคลาโย ในเปรู เมื่อปี 2556 หรือ 1 ปีหลังจากที่โป๊ปฟรานซิสรับตำแหน่ง
เพรวอสต์เป็นที่รู้จักในหมู่พระคาร์ดินัลอยู่แล้ว จากบทบาทของเขาในการเป็นเลขาธิการสำนักอธิการสำหรับพระสังฆราชในลาตินอเมริกา ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการเลือกและดูแลเหล่าบิชอป
เพรวอสต์ได้รับการแต่งตั้งเป็นอาร์ชบิชอปในเดือนมกราคม 2566 ไม่กี่เดือนต่อมา โป๊ปฟรานซิสก็แต่งตั้งให้เขาเป็นพระคาร์ดินัล ก่อนจะพามายังกรุงโรมเพื่อรับตำแหน่งประธานคณะกรรมการสันติปาปาแห่งลาตินอเมริกา และแต่งตั้งเขาเป็นพระคาร์ดินัลระดับสูง ทำให้หลายคนมองว่า โป๊ปฟรานซิสอาจวางตัวให้เขาเป็นพระสันตะปาปาองค์ต่อไปก็เป็นได้

ทำไมไม่เคยมีโป๊ปชาวอเมริกันเลย?
เหตุผลสำคัญมี 2 อย่างคือประวัติศาสตร์ของคริสตจักรคาทอลิก กับเรื่องประชากรศาสตร์ ประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ของคริสตจักรรวมอยู่ในยุโรปตะวันตก โดยเฉพาะในกรุงโรม และโป๊ปถูกเลือกจากคณะพระคาร์ดินัลมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 1602 แต่กว่าจะมีพระคาร์ดินัลชาวอเมริกันคนแรกก็ต้องรอถึงปี พ.ศ. 2418 ทำให้มีโอกาสน้อยมากที่โป๊ปจะเป็นชาวอเมริกัน
อีกเหตุผลที่หลายคนเชื่อกันคือ หลังจากสหรัฐฯ แซงหน้าจักรวรรดิอังกฤษขึ้นเป็นมหาอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจโลก การแต่งตั้งชาวอเมริกันเป็นพระสันตะปาปา ประมุขแห่งคริสตจักรคาทอลิกนั้น จะเป็นการให้อำนาจกับประเทศเดียวมากเกินไป
อย่างไรก็ตาม ยุคสมัยเปลี่ยนไปแล้ว นับตั้งแต่พระสันตะปาปาปอล ที่ 6 และเซนต์จอห์น ปอล ที่ 2 เพิ่มจำนวนสมาชิกคณะพระคาร์ดินัล และทำให้มีความหลากหลายทางเชื้อชาติมากขึ้น ทำให้ชาวอเมริกันมีโอกาสได้เป็นโป๊ปในครั้งนี้
แต่นักวิเคราะห์บางคนก็มองว่า การเลือกพระคาร์ดินัลเพรวอสต์เป็นสันตะปาปานั้น อาจไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ แต่โป๊ปองค์ใหม่เป็นทั้งชาวอเมริกันและชาวเปรู ผู้ยึดมั่นในทางสายกลาง และอาจไม่เข้าข้างฝ่ายอนุรักษ์นิยมหรือฝ่ายหนุนการปฏิรูปในคริสต์จักรมากเกินไป
...
มุมมองของโป๊ปเลโอ ที่ 14
สำนักวาติกันบรรยายว่า โป๊ปเลโอ ที่ 14 เป็นพระสันตะปาปาจากทวีปอเมริกาองค์ที่ 2 ต่อจากโป๊ปฟรานซิส และเป็นโป๊ปจากคณะออกัสติเนียนองค์แรก
พระองค์ถูกมองตั้งแต่ก่อนได้รับเลือกว่าอาจเป็นผู้ที่สานต่อการปฏิรูปของโป๊ปฟรานซิสในคริสตจักรคาทอลิกต่อไป โดยเชื่อกันว่า เขามีมุมมองในเรื่องผู้อพยพ, คนยากจน และสิ่งแวดล้อม แสดงให้เห็นแนวคิดก้าวหน้าแบบเดียวกันกับโป๊ปฟรานซิส
สาธุคุณ จอห์น ลีดอน อดีตเพื่อนร่วมห้องของบาทหลวงเพรวอสต์บอกกับบีบีซี ว่า เพรวอสต์เป็นคนที่เข้ากับคนอื่นง่าย ติดดิน และเป็นห่วงผู้ยากไร้อย่างมาก และเขาเคยโจมตีทั้งนายโดนัลด์ ทรัมป์ และ เจดี แวนซ์ เรื่องการจัดการกับผู้อพยพของทั้งสอง
แต่พระองค์ก็มีความอนุรักษ์นิยมด้วยเช่นกัน โดยพระองค์ดูจะไม่เห็นด้วยกับแนวคิดให้ผู้หญิงบวชเป็นบาทหลวง และเคยวิพากษ์วิจารณ์หลักการ “คำวิงวอนของฟิดูเซีย” (Fiducia supplicans) ที่โป๊ปฟรานซิสประกาศในปี 2566 ที่อนุญาตให้บาทหลวงคาทอลิกอวยพรที่ไม่ได้แต่งงานกันตามคำสอนของคริสตจักรได้ รวมถึงคู่รักเพศเดียวกัน และผู้ที่แต่งงานใหม่หลังหย่าร้าง

...
อะไรอยู่เบื้องหลังชื่อ โป๊ปเลโอ?
หนึ่งในคำถามที่หลายคนอยากรู้คือ เหตุผลที่พระสันตะปาปาองค์ใหม่เลือกใช้พระนามว่า เลโอ ซึ่งเคยถูกใช้ครั้งแรกในช่วงปี ค.ศ. 440-461 โดยพระสันตะปาปาเลโอ ที่ 1 หรือ นักบุญเลโอผู้ยิ่งใหญ่
ผู้สังเกตการณ์ในวาติกันคาดว่า สาเหตุที่พระคาร์ดินัลเพรวอสต์เลือกใช้ชื่อนี้ก็เพื่อให้เกียรติแก่มรดกด้านความยุติธรรมในสังคมและการปฏิรูปของโป๊ปเลโอองค์ก่อนๆ และบ่งชี้ว่าเขาจะสานต่องานบางอย่างของโป๊ปฟรานซิส รวมถึงเรื่องผู้อพยพ
“ผมคิดว่าโป๊ปคนใหม่กำลังบอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องความยุติธรรมในสังคมด้วยการเลือกใช้ชื่อนี้ ว่ามันจะได้รับความสำคัญ เขากำลังสานต่องานมากมายของโป๊ปฟรานซิส” นาตาเลีย อิมเพอราทอรี-ลี ประธานกลุ่มศึกษาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแมนฮัตตันกล่าว
แต่เธอบอกด้วยว่า การเลือกเพรวอสต์เป็นพระสันตะปาปาองค์ใหม่อาจสั่นสะเทือนคริสตจักรในสหรัฐฯ ที่ตอนนี้แบ่งแยกกันอย่างรุนแรงระหว่างฝ่ายอนุรักษ์นิยมกับฝ่ายก้าวหน้า และกลุ่มฝ่ายซ้ายที่ต่อต้านโป๊ปฟรานซิส ส่วนใหญ่ก็มาจากอเมริกา
ผู้เขียน : ทิตชนม์ สว่างศรี
ที่มา : bbc , vox , nbcnewyork