ฟรีดริช แมร์ซ ผู้นำฝ่ายอนุรักษ์นิยม ได้รับความเห็นชอบจากสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของเยอรมนีแล้ว แต่สภาต้องโหวต 2 รอบเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายฟรีดริช แมร์ซ หัวหน้าพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (CDU) ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเยอรมนีแล้ว ในวันอังคารที่ 6 พ.ค. 2568 แต่สภาต้องทำการโหวตลงมติถึง 2 รอบเป็นครั้งแรกในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

นายแมร์ซต้องการคะแนนเสียงจากสมาชิกสภา 316 คน จากทั้งหมด 630 คน แต่ในการลงมติรอบแรกในช่วงเช้าวันอังคาร เขาได้คะแนนโหวตขาดไป 6 เสียง ทั้งที่เขาจับมือกับพรรคสังคมนิยมประชาธิปไตย (SPD) ฝ่ายกลางซ้ายจนได้เสียงข้างมากในสภาแล้ว แต่ 18 คนกลับแตกแถว โดยไม่แน่ชัดว่าเป็นสมาชิกพรรคของเขาเองหรือพรรคร่วม เนื่องจากเป็นการลงคะแนนเสียงลับ

หลังจากเข้าสู่ภาวะไม่แน่นอนนานหลายชั่วโมง พรรคการเมืองต่างๆ และประธานรัฐสภาก็เห็นชอบให้มีการลงมติเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งนายแมร์ซได้คะแนนเสียงไป 325 เสียง เกินกว่าที่ต้องการ 9 เสียง

ทั้งนี้ ไม่เคยมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเยอรมนีคนใดที่แพ้โหวตในสภา ตลอดช่วง 76 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ประชาธิปไตยในเยอรมนีฟื้นฟูกลับมาในปี 2492 ทำให้เกิดความสับสนขึ้นในสภาเป็นเวลานานหลายชั่วโมง

รัฐธรรมนูญของเยอรมนีไม่ได้จำกัดว่า รัฐสภาสามารถโหวตรับรองนายกรัฐมนตรีได้กี่ครั้ง แต่ในทางปฏิบัติ การแพ้โหวตครั้งแรกก็ถูกมองว่าเป็นเรื่องน่าอับอายและกระทบต่อชื่อเสียงแล้ว หากนายแมร์ซแพ้โหวตอีกครั้ง อาจทำให้การรวมตัวระหว่างพรรค CDU กับพรรคร่วมรัฐบาลพังทลาย

อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุดการโหวตก็จบลงด้วยดี และนายแมร์ซก็สาบานตนเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ขณะที่ว่าที่รัฐมนตรีทั้ง 17 คนของเขากำลังเตรียมตัวเข้ารับตำแหน่ง

...

อนึ่ง เดิมทีประธานรัฐสภาเยอรมนีจะจัดการลงมติรอบ 2 ในวันพุธ แต่นายคาร์สเทน ลินเนอมันน์ เลขาธิการพรรค CDU เรียกร้องให้เดินหน้าโหวตในทันที โดยระบุว่า ยุโรปต้องการเยอรมนีที่เข้มแข็ง จึงไม่อาจรอได้อีกต่อไป

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc