รัฐบาลสหราชอาณาจักรกับอินเดียเห็นชอบข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ร่วมกันแล้ว หลังจากเจรจามานาน 3 ปี โดยทั้งสองฝ่ายเชื่อว่าข้อตกลงนี้จะส่งเสริมการค้าและการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมาก

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 6 พ.ค. 2568 ว่า สหราชอาณาจักร (UK) กับอินเดียเห็นชอบข้อตกลงการค้าฉบับใหม่ร่วมกันแล้ว หลังจากเจรจามานาน 3 ปี โดยเป็นข้อตกลงที่จะทำให้บริษัทของ UK ส่งออกวิสกี้, รถยนต์ และสินค้าอื่นๆ ไปยังอินเดียง่ายขึ้น และลดการเก็บภาษีสินค้าประเภทเสื้อผ้าและรองเท้าของอินเดีย

เซอร์ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรี UK กล่าวว่า ข้อตกลงฉบับนี้จะส่งเสริมการเติบโต และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนกับธุรกิจของบริติช

ส่วนนายนเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีอินเดีย กล่าวว่า ข้อตกลงนี้เป็นหลักไมล์สำคัญในประวัติศาสตร์ ที่เป็นทั้งความทะเยอทะยานและผลประโยชน์ร่วมกัน โดยข้อตกลงนี้จะช่วยเร่งปฏิกิริยาการค้า, การลงทุน, การเติบโต, การสร้างงาน และการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ ในเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ

ข้อตกลงการค้าระหว่าง UK กับอินเดียฉบับนี้ ซึ่งมีชื่อว่า “Double Contribution Convention” อาจต้องใช้เวลาราว 1 ปีกว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ แต่กระทรวงธุรกิจของสหราชอาณาจักรคาดว่า ผู้บริโภคใน UK จะได้ประโยชน์จากภาษีนำเข้าสินค้าจากอินเดียที่ลดลงในสินค้าประเภท เสื้อผ้า, รองเท้า, อาหาร รวมถึงกุ้งแช่แข็ง และอัญมณี

รัฐบาลยังเน้นย้ำเรื่องผลประโยชน์ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและการจ้างงานจากการที่บริษัทของ UK ขยายการส่งออกไปอินเดียด้วย โดยสินค้าส่งออกของ UK จะถูกเก็บภาษีลดลงรวมถึง สุราประเภทยินกับวิสกี้, อุปกรณ์การแพทย์, ไฟฟ้า และการบิน, เครื่องสำอาง, อาหารต่างๆ เช่น เนื้อแกะ, แซลมอน, ช็อกโกแลต และบิสกิต

...

ทั้งนี้ อัตราภาษีศุลกากรสำหรับยินและวิสกี้ เป็นจุดติดขัดที่ทั้งสองฝ่ายพยายามเจรจากันมาตลอด โดยตามข้อตกลง อินเดียจะเก็บภาษีนำเข้าสุราดังกล่าวลดลงครึ่งหนึ่งเหลือ 75% และจะลดลงเพิ่มอีกในอีกหลายปีข้างหน้า ส่วนลูกจ้างชาวอินเดียใน UK ที่ใช้วีซ่าระยะสั้น จะได้รับการยกเว้นจากการจ่ายเงินสมทบเข้าประกันสังคมนาน 3 ปี

ข้อตกลงยังรวมถึงข้อกำหนดในภาคบริการและการจัดซื้อจัดจ้างที่จะอนุญาตให้บริษัทของ UK สามารถแข่งขันในการทำสัญญาต่างๆ ได้มากขึ้น แต่ข้อตกลงฉบับนี้ไม่ได้รวมความเปลี่ยนแปลงใดๆ เรื่องนโยบายคนเข้าเมือง รวมถึงต่อนักศึกษาชาวอินเดียที่กำลังศึกษาในสหราชอาณาจักร

อนึ่ง คาดกันว่าอินเดียจะกลายเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลกภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ขณะที่สหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในคู่ค้าสำคัญของอินเดีย โดยในปี 2567 ทั้งสองประเทศค้าขายกันเป็นมูลค่ารวม 4.26 หมื่นล้านปอนด์ และรัฐบาล UK คาดว่า ข้อตกลงใหม่นี้จะเพิ่มมูลค่าการค้าอีก 2.55 หมื่นล้านปอนด์ภายในปี 2583

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : bbc