หญิงชาวออสเตรเลียที่ถูกกล่าวหาว่าปรุงอาหารเมนูเห็ดพิษ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ ที่รวมถึงพ่อและแม่ของอดีตสามี ยอมรับว่าเก็บเห็ดป่า โกหกตำรวจ และทิ้งหลักฐาน แต่อาจให้การต่อศาลว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้เป็นเพียง "อุบัติเหตุร้ายแรง"
หญิงชาวออสเตรเลียที่ถูกกล่าวหาว่าปรุงอาหารเมนูเห็ดพิษ จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ ที่รวมถึงพ่อและแม่ของอดีตสามี ยอมรับว่าเก็บเห็ดป่า โกหกตำรวจ และทิ้งหลักฐาน แต่อาจให้การต่อศาลว่าโศกนาฏกรรมครั้งนี้เป็นเพียง "อุบัติเหตุร้ายแรง"
การพิจารณาคดีของเอริน แพตเตอร์สัน วัย 50 ปี ของศาลเริ่มต้นขึ้นที่เมืองมอร์เวลล์ เมืองเล็กๆ ในรัฐวิกตอเรียวันนี้ (30 เม.ย.) และคาดว่าจะใช้เวลาพิจารณาคดีนาน 6 สัปดาห์ เธอถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม 3 กระทง และพยายามฆ่า 1 กระทง จากกรณีการเสิร์ฟเมนู "บีฟเวลลิงตัน" เป็นอาหารกลางวันที่บ้านของเธอในเดือนกรกฎาคม 2023 ซึ่งเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก
มีผู้เสียชีวิตในโรงพยาบาล 3 รายในช่วงไม่กี่วันหลังจากรับประทานอาหารมื้อดังกล่าว รวมถึนายดอน แพตเตอร์สัน วัย 70 ปี และเกล แพตเตอร์สัน วัย 70 ปี พ่อและแม่ของอดีตสามีของเธอ และฮีเธอร์ วิลกินสัน วัย 66 ปี ซึ่งเป็นน้าของอดีตสามี
แพตเตอร์สันให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และทีมทนายความของเธอกล่าวว่าเธอมีอการ "ตื่นตระหนก" หลังจากที่เสิร์ฟอาหารที่มีพิษให้กับสมาชิกในครอบครัวที่เธอรักโดยไม่ได้ตั้งใจ แขกที่มารับประทานอาหารกลางวันเพียงคนเดียวรอดชีวิตมาได้คือนายเอียน วิลกินสัน ศิษยาภิบาลในท้องถิ่น หลังจากเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลาหลายสัปดาห์
ศาลรับฟังว่าข้อเท็จจริงที่ว่าอาหารกลางวันซึ่งประกอบด้วยเมนูบีฟเวลลิงตัน มันฝรั่งบด และถั่วเขียว มีส่วนประกอบของเห็ดพิษ และทำให้แขกป่วยนั้นไม่มีข้อโต้แย้ง ผู้พิพากษากล่าวว่า "ประเด็นสำคัญคือเธอตั้งใจจะฆ่าหรือทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส"
...
เมื่อวันพุธ อัยการแนนเน็ตต์ โรเจอร์ส กล่าวเปิดการพิจารณาคดีว่า เดิมทีคดีนี้คิดว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับอาหารเป็นพิษ แต่ทางอัยการกล่าวหาว่านางแพตเตอร์สัน "จงใจวางยาพิษ" แขกของเธอ "โดยมีเจตนาฆ่า" หลังจากที่เชิญแขกมารับประทานอาหารกลางวัน "โดยแสร้งทำเป็นว่าเธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง"
โรเจอร์สกล่าวว่าคณะลูกขุนจะรับฟังหลักฐานที่นางแพตเตอร์สันเดินทางไปที่แห่งหนึ่งใกล้บ้านของเธอในเมืองลีออนกาธา ซึ่งมีการบันทึกการพบเห็นเห็ดพิษไว้ในเว็บไซต์ของนักธรรมชาติวิทยา และหลังอาหารกลางวันมื้อดังกล่าวเพียงไม่กี่วัน อัยการกล่าวหาว่าเธอได้ดำเนินการหลายอย่างเพื่อ "ปกปิด" สิ่งที่เธอทำ
พวกเขาบอกว่าเธอโกหกเจ้าหน้าที่สืบสวนเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเห็ดในจาน โดยบอกว่าเห็ดเหล่านั้นมาจากร้านขายของชำเอเชียในเมืองเมลเบิร์น และเธอไม่เคยเก็บเห็ดป่า และเธอยังได้ไปที่บ่อขยะในท้องถิ่นเพื่อกำจัดเครื่องอบแห้งอาหาร ที่อัยการบอกว่าเธอใช้ในการเตรียมอาหารที่มีพิษ
โรเจอร์สกล่าวว่า สิ่งที่คณะลูกขุนคาดว่าจะได้ยินก็คือคำให้การจากพยานหลายคน รวมถึงนายไซมอน แพตเตอร์สัน อดีตสามีที่แยกทางกันของนางแพตเตอร์สัน เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่รักษาแขกที่มารับประทานอาหารกลางวัน และตำรวจที่ทำการสอบสวน
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายจำเลยเปิดคดีโดยเตือนคณะลูกขุนว่าพวกเขายังไม่ได้รับทราบหลักฐานใดๆ และจำเป็นต้องเปิดใจ ด้านโคลิน แมนดี้ ทนายความของนางแพตเตอร์สัน กล่าวว่าแม้ว่าฝ่ายโจทก์จะพยายามกล่าวหาว่าพฤติกรรมของนางแพตเตอร์สันหลังรับประทานอาหารกลางวันเป็น "หลักฐานที่กล่าวโทษ" แต่คณะลูกขุนควรพิจารณาว่าบุคคลใดอาจมีปฏิกิริยาอย่างไรในสถานการณ์ดังกล่าว
เขากล่าวว่านางแพตเตอร์สันไม่ได้ตั้งใจเสิร์ฟอาหารที่มีพิษให้แขกของเธอ "เธอไม่มีเจตนาจะทำร้ายใครในวันนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือโศกนาฏกรรม เป็นอุบัติเหตุที่เลวร้าย"
ที่มา BBC
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign