ทำเนียบขาวสหรัฐฯ โจมตีบริษัท อเมซอน ว่ามีเจตนาร้ายและแรงจูงใจทางการเมือง หลังมีข่าวลือว่า พวกเขาเตรียมแสดงให้ลูกค้าเห็นราคาสินค้าที่บวกเพิ่มเพราะภาษีทรัมป์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 29 เม.ย. 2568 น.ส.แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว จัดงานแถลงข่าวเนื่องในโอกาสที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของเขาครบ 100 วัน โดยในระหว่างนั้นเธอมีการตอบคำถามของผู้สื่อข่าวหลายข้อ
หนึ่งในคำถามที่ผู้สื่อข่าวถามรวมถึงรายงานที่ว่า อีกไม่นานบริษัท อเมซอน ผู้ให้บริการร้านค้าปลีกออนไลน์ จะแสดงให้ลูกค้าของพวกเขาเห็นว่า มาตรการกำแพงภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ราคาสินค้าแต่ละรายการบวกเพิ่มขึ้นมากแค่ไหน
น.ส.เลวิตต์ตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์เพิ่งพูดเรื่องนี้กับเธอผ่านทางโทรศัพท์ “นี่เป็นพฤติกรรมที่มีเจตนาร้ายและมีแรงจูงใจทางการเมืองจากฝ่ายอเมซอน” เธอยังโชว์กระดาษบทความข่าวเมื่อปี 2564 ของรอยเตอร์สที่มีรูปของนาย เจฟฟ์ เบซอส เจ้าของอเมซอนให้นักข่าวดูแล้วอ้างว่า อเมซอนเป็นหุ้นส่วนกับฝ่ายโฆษณาชวนเชื่อของจีน
“นี่เป็นอีกเหตุผลว่าทำไมชาวอเมริกันควรซื้อของอเมริกัน มันเป็นอีกเหตุผลว่าทำไมเราควรนำห่วงโซ่อุปทานสำคัญกลับบ้าน เพื่อค้ำจุนห่วงโซ่อุปทานสำคัญของเราเอง และเพิ่มการผลิตของเราที่นี่” น.ส.เลวิตต์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมา อเมซอนออกแถลงการณ์ผ่านสำนักข่าว วอชิงตัน โพสต์ ซึ่งนายเบซอสเป็นเจ้าของเช่นกัน โดยยืนยันว่าทางบริษัทไม่เคยคิดที่จะแสดงให้เห็นราคาที่บวกเพิ่มของสินค้านำเข้าบนเว็บไซต์หลักหรืออื่นๆ ของพวกเขา
ทั้งนี้ มาตรการกำแพงภาษีของโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเป็นข้อถกเถียงอย่างหนัก หลังเขาตัดสินใจตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศจีนสูงถึง 145% และเก็บภาษี 10% จากสินค้าที่นำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลก ไม่นับภาษีต่างตอบแทนที่มุ่งเป้าไปยังหลายสิบประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าด้วย แต่ถูกระงับการบังคับใช้นาน 90 วัน
...
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign