ในช่วงคืนที่ผ่านมา ไฟฟ้าได้กลับมาจ่ายให้กับโครงข่ายไฟฟ้าแห่งชาติของสเปนแล้วประมาณ 99% ส่วนไฟฟ้าในกรุงลิสบอน เมืองหลวงของโปรตุเกส ก็กลับมาจ่ายไฟได้อีกครั้ง

เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ที่ผ่านมา (28 เม.ย.) ไฟฟ้าเริ่มกลับมาจ่ายสู่พื้นที่บางส่วนของคาบสมุทรไอบีเรียแล้ว หลังจากเกิดไฟฟ้าดับครั้งใหญ่ ทำให้บริการต่างๆ ในสเปนและโปรตุเกสต้องหยุดให้บริการเกือบทั้งหมด ส่งผลให้เครื่องบินต้องจอดนิ่ง ระบบขนส่งสาธารณะต้องหยุดชะงัก และโรงพยาบาลต้องหยุดให้บริการตามปกติ

กระทรวงมหาดไทยของสเปนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติ โดยส่งตำรวจ 30,000 นาย ไปทั่วประเทศเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ขณะที่รัฐบาลของทั้งสองประเทศจัดประชุมคณะรัฐมนตรีฉุกเฉิน เนื่องจากไฟฟ้าดับในระดับดังกล่าวเกิดขึ้นไม่บ่อยนักในยุโรป

เมื่อเวลา 04:00 น. วันนี้ (29 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น บริษัท Red Eléctrica ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดำเนินการที่ดำเนินการโครงข่ายไฟฟ้าแห่งชาติของสเปน รายงานว่า 99% ว่าสามารถกลับมาจ่ายไฟฟ้าได้แล้ว ด้านรัฐบาลโปรตุเกสเปิดเผยว่า ขณะนี้ไฟฟ้ากลับมาใช้ได้แล้วในบางส่วนของกรุงลิสบอน โดยผู้ประกอบการระบบส่งไฟฟ้าแห่งชาติแจ้งว่า ขณะนี้ครัวเรือนราว 6.2 ล้านครัวเรือน จากทั้งหมด 6.5 ล้านครัวเรือนมีไฟฟ้าใช้แล้ว

บริษัทผู้ประกอบการด้านพลังงาน REN ของโปรตุเกสกล่าวว่า สามารถส่งไฟฟ้าไปยัง "สถานีไฟฟ้าย่อยและสถานีสับเปลี่ยนไฟฟ้า 85 แห่งจากทั้งหมด 89 แห่ง" ได้สำเร็จ และจ่ายไฟฟ้าให้กับสถานีย่อยทั้งหมดในเครือข่ายการขนส่งแห่งชาติแล้ว

บริการรถไฟใต้ดินมาดริดในเครือข่ายทั้งหมด ยกเว้นสาย 7A จะเริ่มให้บริการเวลา 08:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันนี้ อิซาเบล ดิอาซ อายูโซ ประธานของประชาคมมาดริด ยังกล่าวอีกว่ารถไฟ 80% จะให้บริการในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนตอนเช้าตามปกติ ส่วนรถบัสสาธารณะในเมืองและรถไฟระหว่างเมืองทั้งหมดให้บริการตามปกติและจะให้บริการฟรีตลอดทั้งวัน ขณะที่จุดเชื่อมต่อระบบขนส่งทั้ง 6 แห่งในภูมิภาคยังคงเปิดให้บริการตามปกติ

...

แม้ว่าไฟฟ้าส่วนใหญ่สามารถจ่ายไฟได้ในช่วงข้ามคืน แต่สเปนยังคงประกาศภาวะฉุกเฉินในช่วงเช้านี้ เนื่องจากสถานการณ์ไฟดับอย่างต่อเนื่องทางการระบุว่า สถานการณ์ฉุกเฉินจะใช้กับภูมิภาคที่ร้องขอ จนถึงขณะนี้ ภูมิภาคมาดริด อันดาลูเซีย และเอสเตรมาดูรา ได้เรียกร้องให้รัฐบาลกลางเข้ามาควบคุมความสงบเรียบร้อยของประชาชนและทำหน้าที่อื่นๆ

ทั้งนี้ ภูมิภาค 17 แห่งของสเปนมีหน่วยงานที่ได้รับการเลือกตั้งโดยตรง ซึ่งมีหน้าที่จัดการปัญหาต่างๆ ในพื้นที่ของตน แต่เมื่อมีเหตุการณ์ใหญ่ๆ เกิดขึ้นซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ภูมิภาคต่างๆ ก็สามารถขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากรัฐบาลกลางได้ โดยขอให้ประกาศภาวะฉุกเฉิน

ผู้คนนั่งบนบันไดเพื่อเตรียมตัวพักค้างคืนที่สถานีรถไฟ Atocha ในกรุงมาดริด ประเทศสเปน หลังจากเกิดไฟฟ้าดับครั้งใหญ่
ผู้คนนั่งบนบันไดเพื่อเตรียมตัวพักค้างคืนที่สถานีรถไฟ Atocha ในกรุงมาดริด ประเทศสเปน หลังจากเกิดไฟฟ้าดับครั้งใหญ่

ขณะสาเหตุของไฟฟ้าดับยังไม่ชัดเจน โดยโปรตุเกสระบุว่าปัญหามีต้นตอมาจากสเปน และสเปนก็ชี้ไปที่การขาดการเชื่อมต่อของระบบไฟฟ้ากับฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีหลุยส์ มอนเตเนโกรของโปรตุเกสกล่าวว่า "ไม่มีสิ่งบ่งชี้" ว่าการโจมตีทางไซเบอร์เป็นสาเหตุของไฟดับ ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.33 น. วานนี้ ตามเวลาท้องถิ่น

อย่างไรก็ตาม มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าอาจมีการก่อวินาศกรรมเกิดขึ้น และนายกรัฐมนตรีเปโดร ซานเชซ ของสเปน กล่าวว่าเขาได้พูดคุยกับนายมาร์ก รุตเต้ เลขาธิการนาโตแล้ว นายซานเชซกล่าวว่าสเปนประสบกับการสูญเสียการผลิตไฟฟ้า 15 กิกะวัตต์ ในเวลา 5 วินาที ซึ่งเทียบเท่ากับ 60% ของความต้องการไฟฟ้าในประเทศ เจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคกำลังพยายามหาสาเหตุว่าเหตุใดจึงลดลงอย่างกะทันหันดังกล่าว

นาย Joao Conceicao กรรมการบริหาร REN ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการระบบส่งไฟฟ้าในโปรตุเกส กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า บริษัทไม่ได้ตัดทิ้งความเป็นไปได้ที่จะเกิด "แรงดันไฟฟ้าผันผวนอย่างรุนแรง โดยเกิดขึ้นกับระบบของสเปนก่อน จากนั้นจึงลามไปยังระบบของโปรตุเกส" "อาจมีสาเหตุมากมายนับพันสาเหตุ จึงยังเร็วเกินไปที่จะประเมินสาเหตุ" พร้อมเสริมว่า REN ได้ติดต่อกับสเปนแล้ว

Red Eléctrica ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการระบบส่งไฟฟ้าของสเปน กล่าวโทษว่าการเชื่อมต่อกับฝรั่งเศสที่ขัดข้องทำให้เกิดผลกระทบตามมา "ระดับของการสูญเสียพลังงานเกินกว่าที่ระบบของยุโรปจะรับมือได้ และทำให้ระบบส่งไฟฟ้าของสเปนและฝรั่งเศสถูกตัดการเชื่อมต่อ ซึ่งส่งผลให้ระบบไฟฟ้าของสเปนล่มสลายในที่สุด" 

ก่อนหน้านี้ พื้นที่บางส่วนของฝรั่งเศสประสบปัญหาไฟฟ้าดับชั่วคราว RTE ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการระบบส่งไฟฟ้าของฝรั่งเศส กล่าวว่าได้ดำเนินการส่งไฟฟ้าเพิ่มเติมไปยังบางส่วนของภาคเหนือของสเปนหลังจากเกิดเหตุไฟฟ้าดับ.

...

ที่มา Reuters BBC