วาติกันเปิดเผยสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของโป๊ปฟรานซิส โดยระบุว่าพระองค์จากไปเพราะภาวะสมองขาดเลือดหรือสโตรก หลังจากหัวใจล้มเหลว
เมื่อเย็นวันจันทร์ที่ 21 เม.ย. 2568 สำนักวาติกันเผยแพร่แถลงการณ์ซึ่งลงนามโดยศาสตราจารย์ อันเดรีย อาร์กันเจลี ผู้อำนวยการสำนักงานสุขภาพและอนามัยแห่งนครรัฐวาติกัน ระบุว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสสิ้นพระชนม์เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น เนื่องจากสมองขาดเลือด (สโตรก) หลังเกิดภาวะหัวใจล้มเหลว
แถลงการณ์บอกอีกว่า ยังมีอาการป่วยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อการสิ้นพระชนม์ของโป๊ปฟรานซิส รวมถึงภาวะทางเดินหายใจล้มเหลวเฉียบพลันที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้, ภาวะความดันโลหิตสูงที่หลอดเลือดแดงใหญ่ และโรคเบาหวานชนิดที่ 2
ทั้งนี้ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสต้องประทับที่โรงพยาบาลเจเมลลีในกรุงโรมนานถึง 5 สัปดาห์ เพื่อรักษาอาการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจอย่างรุนแรง จากนั้นพระองค์ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อแบคทีเรียหลายชนิด ส่งผลให้เกิดอาการปอดบวมที่ปอดทั้ง 2 ข้าง
ทีมแพทย์ผู้ถวายการรักษาระบุว่า ระหว่างการรักษาอาการของโป๊ปฟรานซิสเคยวิกฤตจนเป็นอันตรายต่อชีวิตของพระองค์ถึง 2 ครั้ง และพวกเขาเคยพิจารณาจะหยุดการรักษาเพื่อให้พระองค์จากไป แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจฝืนรักษาต่อ โดยพยายามใช้ยากับการบำบัดทุกอย่างที่เป็นไปได้ แม้จะมีความเสี่ยงสูงมากที่จะเกิดความเสียหายต่ออวัยวะอื่นๆ ก็ตาม
โป๊ปฟรานซิสได้รับอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ในวันที่ 23 มี.ค. หลังจากมีอาการทรงตัวต่อเนื่อง และพระองค์เสด็จกลับไปรักษาต่อที่อาคาร “คาซา ซานตา มาร์ตา” (Casa Santa Marta) ในวาติกัน โดยโป๊ปปรากฏพระองค์หลายครั้งในช่วงสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์ก่อนถึงวันอีสเตอร์
...
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โป๊ปฟรานซิสปรากฏพระองค์และมีแถลงการณ์อำนวยพรคริสตศาสนิกชนเนื่องในวันอีสเตอร์ จากระเบียงมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรม ก่อนที่หลายชั่วโมงต่อมาสำนักวาติกันจะประกาศข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระองค์
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn