เด็กชายวัย 9 ขวบที่ติดอยู่ระหว่างก้อนหินบนชายหาดในรัฐนิวเซาท์เวลส์ กลายเป็นผู้เสียชีวิตคนที่ 7 ที่จมน้ำในออสเตรเลียในช่วงสุดสัปดาห์อีสเตอร์ หลังคลื่นขนาดใหญ่พัดเข้าชายฝั่ง
เด็กชายวัย 9 ขวบที่ติดอยู่ระหว่างก้อนหินบนชายหาดในรัฐนิวเซาท์เวลส์ กลายเป็นผู้เสียชีวิตคนที่ 7 ที่จมน้ำในออสเตรเลียในช่วงสุดสัปดาห์อีสเตอร์ โดยการเสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากคลื่นสูงซัดผู้คนที่อยู่บนก้อนหินลงสู่มหาสมุทร และมีผู้สูญหาย 2 ราย
สตีเวน เพียร์ซ ซีอีโอของ Surf Live Saving ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุเสียชีวิตส่วนใหญ่ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ ABC ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุการณ์จมน้ำที่ "เลวร้ายที่สุด" เท่าที่เคยมีการบันทึกมาในช่วงสุดสัปดาห์วันอีสเตอร์ เพียร์ซกล่าวว่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ควรเป็นสุดสัปดาห์ที่เต็มไปด้วยความรื่นเริงและกิจกรรมทางศาสนา แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่เลวร้ายมาก
ทีมฉุกเฉินสามารถกู้ร่างของเด็กชายกลับมาได้ที่ชายหาดเมืองเซาท์ เวสต์ ร็อก ซึ่งอยู่ห่างจากนครซิดนีย์ไปทางเหนือประมาณ 400 กิโลเมตร แต่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ก่อนหน้านี้ในวันที่ 20 เม.ย. เฮลิคอปเตอร์พบพ่อและลูกชายลอยอยู่ในน้ำใกล้หาดวัตตามอลลา ทางใต้ของซิดนีย์ ลูกชายวัย 14 ปีได้รับการช่วยชีวิต แต่ในเวลาต่อมาพบว่าพ่อของเด็กเสียชีวิต ขณะเดียวกัน ตำรวจในรัฐวิกตอเรียยังคงค้นหาชายวัย 41 ปีที่หายตัวไปใกล้กับเมืองซานเรโมเมื่อวันศุกร์
องค์กร Surf Live Saving รัฐนิวเซาท์เวลส์ระบุว่า ได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไปแล้วมากกว่า 150 รายนับตั้งแต่วันที่ 18 เม.ย. ซึ่งเป็นวันศุกร์ประเสริฐ นายเพียร์ซกล่าวว่า ปัจจัยต่างๆ เช่น อุณหภูมิที่สูง ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และคลื่นทะเลที่อันตรายในพื้นที่ส่วนใหญ่ของนิวเซาท์เวลส์และรัฐวิกตอเรีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น แม้ว่าสภาพอากาศจะดีขึ้นในวันจันทร์ แต่ทางการก็ขอให้ผู้ที่เดินทางไปตามชายฝั่งใช้ความระมัดระวัง
...
แอนโธนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แสดงความเห็นอกเห็นใจต่อครอบครัวของเหยื่อ และกล่าวว่า "ทุกคนโปรดระมัดระวัง โดยเฉพาะครอบครัวต่างๆ โปรดระวังบุตรหลานของคุณ"
ตามรายงานขององค์กร Royal Life Saving Australia มีผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ 323 รายทั่วประเทศในปีที่สิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2024 ตัวเลขดังกล่าวรวมถึงผู้เสียชีวิตในแม่น้ำและลำธาร รวมถึงชายหาด เกือบร้อยละ 40 ของการเสียชีวิต เกิดขึ้นในรัฐนิวเซาท์เวลส์.
ที่มา BBC
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign