อันวาร์เตือนความขัดแย้งการค้าจีน–สหรัฐฯ ยังส่งผลกระทบต่อภูมิภาคอาเซียน และมาเลเซียเอง แม้สหรัฐฯ จะชะลอบังคับใช้นโยบายเพิ่มภาษีออกไปอีก 90 วัน ระบุ มาเลเซียพร้อมนำอาเซียนรวมพลังรับมือ
วันที่ 10 เมษายน 2568 นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวต่อที่ประชุมรัฐมนตรีคลังอาเซียน ครั้งที่ 12 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ระบุว่า แรงกดดันจากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจโลก สหรัฐฯ และจีน จะยังคงส่งผลกระทบต่อภูมิภาคอาเซียน และมาเลเซียเอง แม้รัฐบาลสหรัฐฯ จะชะลอการเก็บเพิ่มภาษีนำเข้าออกไปอีก 90 วัน
ผู้นำมาเลเซียกล่าวว่า แม้จะมีการชะลอขึ้นภาษี แต่ความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่สูง และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานของภูมิภาค แรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นก็ยังคงสร้างแรงกดดันต่อประเทศในอาเซียนอย่างหนัก พร้อมย้ำมาเลเซียจะประสานแนวร่วมอาเซียน เพื่อหาทางออกอย่างสงบแต่หนักแน่น
นายอันวาร์กล่าวว่า มาเลเซียซึ่งทำหน้าที่ในฐานะประธานอาเซียนประจำปีนี้ จะประสานเสียงประเทศสมาชิกในการจัดทำจุดยืนร่วมของภูมิภาค และรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจท่ามกลางแรงกดดันจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ โดยยืนยันว่าจะไม่ตอบโต้โดยใช้อารมณ์ แต่จะดำเนินการอย่างสุขุม หนักแน่น และยึดผลประโยชน์ของภูมิภาคเป็นที่ตั้ง
ผู้นำมาเลเซียกล่าวว่า แม้จะมีแรงกดดัน แต่มาเลเซียจะไม่เข้าสู่ภาวะถดถอยในระยะสั้นจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอาจพิจารณาทบทวนเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของปีนี้ หากมาตรการมีผลในวันที่ 9 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดช่วงผ่อนผัน 90 วัน
ทั้งนี้ มาตรการภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศของรัฐบาลทรัมป์ ส่งผลกระทบต่อหลายประเทศในอาเซียน โดยเวียดนาม และกัมพูชาถูกกำหนดอัตราภาษีสูงถึง 46% และ 49% ตามลำดับ ส่วนมาเลเซียได้รับภาษีในอัตรา 24% ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวอ้างว่ามาเลเซียเก็บภาษีสินค้าสหรัฐฯ สูงถึง 47% ซึ่งทางการมาเลเซียได้ปฏิเสธอย่างชัดเจน.
...