นายอี แจ มยอง ผู้นำฝ่ายค้านเกาหลีใต้ ประกาศตัวลงสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยสัญญาว่าจะมุ่งเน้นที่การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
นายอี แจ มยอง ผู้นำฝ่ายค้านของเกาหลีใต้ ประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยสัญญาว่าจะมุ่งเน้นที่การแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะที่เขามีคะแนนนำในผลสำรวจความคิดเห็นผู้นำประเทศคนต่อไป
การเลือกตั้งประธานาธิบดีจะจัดขึ้นในวันที่ 3 มิ.ย. หลังจากคำพิพากษาถอดถอนอดีตประธานาธิบดียุน ซอก ยอล จากการประกาศกฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคม ได้รับความเห็นชอบจากศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 1 เม.ย.
ในวิดีโอที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี (10 เม.ย.) นายอีให้คำมั่นว่าจะแก้ไขความขัดแย้งทางเศรษฐกิจ ซึ่งเขากล่าวว่าเป็นสาเหตุสำคัญของความขัดแย้งทางสังคม โดยเน้นย้ำว่าเขารู้สึกว่าเรื่องนี้ทำให้ความวุ่นวายทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมารุนแรงขึ้น หลังจากคำสั่งกฎอัยการศึกของนายยุน
นายอีกล่าวว่าเขาจะผลักดันการลงทุนขนาดใหญ่ในระดับรัฐบาลในด้านเทคโนโลยีและการพัฒนาบุคลากรเพื่อฟื้นคืนการเติบโตทางเศรษฐกิจ นายอี ซึ่งพยายามสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเองเป็นนักปฏิบัตินิยม กล่าวว่าไม่สำคัญว่าใครจะเป็นผู้ริเริ่มนโยบาย แต่สิ่งที่สำคัญคือนโยบายนั้นมีประโยชน์หรือไม่
แม้นักวิจารณ์ฝ่ายอนุรักษ์นิยมเตือนว่าฝ่ายค้านอาจบ่อนทำลายความเป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯ และคุกคามความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับญี่ปุ่น แต่ลีให้คำมั่นว่าจะใช้แนวทางที่เป็นรูปธรรมในการทูต นายอีกล่าวว่า "ถ้าพูดตามความเป็นจริง พันธมิตรเกาหลีใต้-สหรัฐฯ มีความสำคัญ และความร่วมมือระหว่างเกาหลีใต้ สหรัฐฯ-ญี่ปุ่นก็มีความสำคัญเช่นกัน หลักการที่สอดคล้องกันคือผลประโยชน์ของชาติของสาธารณรัฐเกาหลีเป็นลำดับความสำคัญสูงสุด"
...
นายอี วัย 61 ปี แพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีด้วยคะแนนเสียงที่สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ เมื่อเขาลงชิงชัยกับนายยุนในการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2022 แต่เมื่อปีที่แล้ว เขาพาพรรคประชาธิปไตยของเขา ชนะการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรอย่างถล่มทลาย และได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งฝ่ายเสรีนิยม เมื่อวันพุธ นายอีลาออกตำแหน่งหัวหน้าพรรคฝ่ายค้านหลัก เตรียมเปลี่ยนแนวทางเพื่อมุ่งเน้นไปที่การรณรงค์หาเสียง
ผลสำรวจของ Gallup ที่ประกาศเมื่อวันที่ 4 เม.ย. ระบุว่านายอีเป็นตัวเต็งที่จะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป โดยได้รับการสนับสนุน 34% ขณะที่คิม มุนซู อดีตรัฐมนตรีกระทรวงแรงงานวัย 73 ปี ซึ่งเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคอนุรักษ์นิยม ได้คะแนนสนับสนุน 9%
ทั้งนี้ ฝ่ายอนุรักษ์นิยมมีตัวเลือกผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจำนวนมาก พรรคพลังประชาชน (PPP) ซึ่งครองอำนาจอยู่ขณะนี้ มีแผนจะประกาศรายชื่อผู้สมัครผ่านการเลือกตั้งขั้นต้นในเดือนพฤษภาคม
ฮัน ดงฮุน อดีตหัวหน้าพรรค PPP วางแผนที่จะประกาศลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันนี้เช่นกัน เขาเคยมีความใกล้ชิดกับนายยุน แต่ตอ่มาได้สนับสนุนการถอดถอนนายยุน
ขณะเดียวกัน อียังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนทางกฎหมายที่อาจส่งผลต่อการลงสมัคร เนื่องจากเขากำลังถูกพิจารณาคดีในข้อหาต่างๆ ตั้งแต่การติดสินบนไปจนถึงการมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องอื้อฉาวด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มูลค่า 1,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ อัยการยังได้อุทธรณ์คำตัดสินของศาลในเดือนมีนาคม ที่พลิกคำตัดสินของนายอีว่ามีความผิดฐานละเมิดกฎหมายการเลือกตั้ง ยังไม่ชัดเจนว่าคดีความต่าง ๆ ที่กำลังดำเนินอยู่จะเป็นอุปสรรคต่อการลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของนายอีหรือไม่
ในเดือนมกราคม 2024 นายอีรอดชีวิตจากการถูกแทงด้วยมีด และเข้ารับการผ่าตัดหลังจากถูกชายคนหนึ่งแทงที่คอระหว่างงานกิจกรรมหนึ่ง.
ที่มา Reuters
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign