ตำรวจอังกฤษจับกุมชายนิรนามปีนขึ้นไปบนหอนาฬิกาบิ๊กเบน ในกรุงลอนดอนของอังกฤษ พร้อมกับธงปาเลสไตน์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้รถกระเช้าขึ้นไปเกลี้ยกล่อม จนกระทั่งยอมลงมาในอีก 16 ชั่วโมงต่อมา
ตำรวจอังกฤษเผยว่า ชายคนหนึ่งซึ่งปีนขึ้นไปบนหอคอยเอลิซาเบธ หรือที่รู้จักกันในชื่อหอนาฬิกาบิ๊กเบน ที่พระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ในกรุงลอนดอนเมื่อเช้าวันเสาร์ (8 มี.ค.) ได้ยอมลงมาแล้วหลังจากผ่านไป 16 ชั่วโมง และถูกจับกุมในเวลาต่อมา สื่ออังกฤษรายงานว่า ชายคนนี้โบกธงปาเลสไตน์ และตะโกนคำว่า ปลดปล่อยปาเลสไตน์
เหตุดังกล่าวส่งผลให้การจราจรโดยรอบพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ต้องหยุดชะงัก เนื่องจากหน่วยบริการฉุกเฉินพยายามเกลี้ยกล่อมชายคนดังกล่าวซึ่งปีนขึ้นไปบนหอคอยเอลิซาเบธ พร้อมถือธงปาเลสไตน์ ภาพถ่ายแสดงให้เห็นชายเท้าเปล่า ซึ่งดูเหมือนกำลังประท้วง ยืนอยู่บนขอบที่สูงกว่าหอคอยเอลิซาเบธซึ่งเป็นที่ตั้งของบิ๊กเบนไปหลายเมตร
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าทัวร์ชมอาคารรัฐสภาถูกยกเลิกเนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนสะพานเวสต์มินสเตอร์และถนนใกล้เคียงถูกปิดเกือบตลอดทั้งวันเสาร์ และรถบริการฉุกเฉินหลายคันก็มาถึงที่เกิดเหตุในขณะที่ฝูงชนต่างเฝ้าดูด้วยความสนใจ นอกจากนั้น ตำรวจยังปิดกั้นทางเข้าจัตุรัสรัฐสภาสำหรับคนเดินเท้าทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ ตำรวจนครบาลระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานเกี่ยวกับชายคนดังกล่าวเมื่อเวลาประมาณ 7.00 น. ของวันเสาร์ และดำเนินการเพื่อจัดการเหตุการณ์นี้ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและรถพยาบาล
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้พาผู้เจรจาขึ้นไปบนรถเครนของหน่วยดับเพลิงหลายครั้ง เพื่อพูดคุยกับชายคนดังกล่าวและเกลี้ยกล่อมให้เขาลงมาโดยใช้โทรโข่ง แต่ชายนิรนามคนดังกล่าวไม่ยอมลงมา จนกระทั่งนาฬิกาบิ๊กเบนบอกสัญญาณเวลาเที่ยงคืน ชายคนดังกล่าวจึงยอมลงมา และถูกจับกุมทันทีที่ถึงพื้นด้านล่าง
...
ในวิดีโอที่โพสต์บนอินสตาแกรม ชายนิรนามได้บอกกับผู้เจรจาว่าเขาจะยอมลงมาตาม "เงื่อนไขของตัวเอง" และกล่าวว่า "ถ้าคุณมาหาผม คุณกำลังทำให้ผมตกอยู่ในอันตราย และผมจะปีนขึ้นไปให้สูงกว่านี้"
ภาพถ่ายตลอดทั้งวันแสดงให้เห็นว่าเขากำลังนั่งอยู่บนขอบปูนพร้อมกับธงชาติ และพันผ้าพันคอเคฟฟีเยห์ของชาวปาเลสไตน์ไว้รอบ ๆ หินประดับบนหอคอย ขณะที่มีเสียงตะโกนว่า "ปลดปล่อยปาเลสไตน์" และ "คุณคือฮีโร่" ดังออกมาจากกลุ่มผู้สนับสนุนกลุ่มเล็ก ๆ ที่ถูกตรึงอยู่หลังแนวป้องกันของตำรวจ.
ที่มา BBC
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign