ทูตพิเศษของจีนย้ำว่า การเจรจาสันติภาพในยูเครนควรให้ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ไม่ใช่แค่สหรัฐฯ กับรัสเซียคุยกันเอง
เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2568 นายหลู่ ซาเหย่ ทูตพิเศษฝ่ายกิจการยุโรปของประเทศจีน กล่าวว่า เขารู้สึกตกใจกับวิธีที่โดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิบัติต่อพันธมิตรของสหรัฐอเมริกาในยุโรป พร้อมเสริมว่า ข้อตกลงสันติภาพในยูเครนไม่ควรถูกกำหนดโดยแค่สหรัฐฯ กับรัสเซียเท่านั้น
“เมื่อคุณดูวิธีที่รัฐบาลทรัมป์บังคับใช้นโยบายครอบงำอย่างน่าไม่อายต่อยุโรป ปฏิบัติต่อพันธมิตรของพวกเขาแบบนี้ พูดตามตรง จากมุมมองของยุโรป นี่เป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่าตกใจ” นายหลู่กล่าว
“ผมเชื่อว่าเหล่าสหายในยุโรปควรไตร่ตรองเรื่องนี้ และเปรียบเทียบนโยบายของรัฐบาลทรัมป์กับนโยบายของรัฐบาลจีน และเมื่อทำแบบนั้น พวกเขาก็จะเห็นว่าแนวทางทางการทูตของจีนนั้นเน้นย้ำเรื่องสันติภาพ, มิตรภาพ, ความปรารถนาดี และความร่วมมือโดยชนะทั้งสองฝ่าย”
ทั้งนี้ นายหลู่แสดงความเห็นดังกล่าวนอกรอบการประชุมคณะกรรมการร่วมกับนักการทูตอาวุโสคนอื่นๆ ระหว่างการประชุมประจำปีของสภาที่ปรึกษาการเมืองประชาชนจีน “CPPCC”
นายหลู่แสดงการยอมรับที่สหรัฐฯ กับรัสเซียโดยมีเป้าหมายเพื่อแก้ไขวิกฤติ แต่ย้ำว่า กระบวนการสันติภาพใดๆ ได้รับการยอมรับและให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีส่วนร่วม รวมถึงชาติยุโรปด้วย “ข้อเสนอแก้ปัญหาต่างๆ ควรเกิดขึ้นด้วยการหารืออย่างเท่าเทียม ไม่ใช่การคุยกันระหว่างผู้ที่ถูกเลือกเพียงไม่กี่ฝ่าย”
“มันไม่ควรถูกตัดสินโดยแค่สหรัฐฯ กับรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อยุโรปแสดงความกังวลอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยความรู้สึกว่า ทิศทางทางการทูตเช่นนี้ ละเลยจุดยืนของพวกเขา”
...
อนึ่ง ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับยุโรปย่ำแย่ลง นับตั้งแต่สงครามในยูเครนปะทุขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน เนื่องจากฝ่ายยุโรปกังวลเรื่องความใกล้ชิดระหว่างปักกิ่งกับมอสโก และการผลิตสินค้ามากจนล้นตลาดของจีน แต่ความสั่นคลอนในความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับยุโรป นับตั้งแต่นายทรัมป์กลับมาเป็นประธานาธิบดี อาจเปิดช่องให้จีนฟื้นสัมพันธ์กับยุโรป
อย่างไรก็ตาม นายหลู่ยืนยันว่า จีนไม่ได้คิดจะฉวยโอกาสนี้เพื่อประโยชน์ของตัวเองหรือสร้างรอยร้าวระหว่างประเทศอื่นๆ พร้อมระบุว่า ความสัมพันธ์ต่างประเทศของจีนไม่ได้พึ่งพาการดึงพันธมิตรของสหรัฐฯ ให้ออกห่างจากรัฐบาลวอชิงตัน แต่เป็นการบ่มเพาะความเป็นหุ้นส่วนอย่างแท้จริงบนพื้นฐานของการมีผลประโยชน์ร่วมกัน
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : yahoo