วาติกันเผยว่า โป๊ปฟรานซิสมีอาการทรงตัว และไม่มีอาการวิกฤติด้านทางเดินหายใจกำเริบเหมือนเมื่อวันจันทร์ โดยทรงรับการกายภาพบำบัดมากขึ้นด้วย

สำนักวาติกันอัปเดตอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ในช่วงเย็นวันพุธที่ 5 มี.ค. 2568 ระบุว่า อาการทางคลินิกของพระองค์ยังทรงตัว โดยไม่มีภาวะวิกฤติด้านทางเดินหายใจกำเริบขึ้นมาอีก นอกจากนั้นพระองค์ยังได้รับอาหารเสริมกับออกซิเจนการไหลสูงตามแผนที่วางไว้ และจะกลับไปใช้เครื่องช่วยหายใจแบบไม่สอดท่อในคืนนี้

แถลงการณ์ของวาติกันบอกด้วยว่า โป๊ปฟรานซิสทรงทำกายภาพบำบัดเกี่ยวกับทางเดินหายใจและการเคลื่อนไหวมากขึ้น โดยพระองค์ใช้เวลาช่วงกลางวันอยู่บนรถเข็น ขณะที่แพทย์ยังไม่สามารถทำนายโรคได้ เนื่องจากความซับซ้อนของอาการทางคลินิกของโป๊ปฟรานซิส

ในส่วนของกิจกรรมอื่นๆ วาติกันระบุว่า ในช่วงเช้า โป๊ปฟรานซิสทรงเข้าร่วมพิธีอำนวยพรเถ้าศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในวันพุธรับเถ้า (Ash Wednesday) ที่ห้องส่วนพระองค์บนชั้นที่ 10 ของโรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ก่อนที่พระองค์จะทำพิธีรับศีลมหาสนิท ส่วนในช่วงบ่ายพระองค์ใช้เวลากับการทรงงานและพักผ่อน

ทั้งนี้ โป๊ปฟรานซิสพระชนมายุ 88 พรรษา ประทับที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่ 14 ก.พ. แล้ว เพื่อรักษาอาการปอดบวมที่ปอดทั้ง 2 ข้าง โดยในวันเสาร์ที่ 22 ก.พ. วาติกันใช้คำว่าโป๊ปฟรานซิสอยู่ในอาการวิกฤติเป็นครั้งแรก แต่อาการของพระองค์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนออกจากภาวะวิกฤติได้เมื่อสัปดาห์ก่อน

ในวันจันทร์ที่ผ่านมา (3 มี.ค.) โป๊ปประสบภาวะการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน 2 ครั้ง (acute respiratory failure) อันเป็นผลจากการสะสมอย่างมีนัยสำคัญของเสมหะในหลอดลม จนทำให้ทางเดินหายใจแคบลง จนแพทย์ต้องให้พระองค์ใช้หน้ากากออกซิเจนและเครื่องช่วยหายใจ อย่างไรก็ตาม อาการของพระองค์กลับมาทรงตัวอีกครั้งในวันอังคาร

...

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : vaticannews