ศาลสูงสุดขวางรัฐบาลทรัมป์ที่ต้องการให้ชะลอการเบิกจ่ายงบประมาณเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์ ให้แก่องค์กรช่วยเหลือต่างประเทศ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 5 มี.ค. 2568 ศาลสูงสุดของสหรัฐฯ ปฏิเสธคำร้องของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้ชะลอการเบิกจ่ายงบประมาณเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์ ให้แก่องค์กรช่วยเหลือต่างประเทศ สำหรับความช่วยเหลือที่พวกเขาได้ทำไปแล้ว
ศาลสูงสุดมีคำพิพากษายืนตามคำตัดสินของผู้พิพากษาศาลแขวง อาเมียร์ อาลี ในเดือนกุมภาพันธ์ ที่สั่งให้กระทรวงต่างประเทศ และ USAID จ่ายเงินให้แก่ผู้ทำสัญญาสำหรับความช่วยเหลือที่พวกเขาได้ทำไปแล้ว ภายในเที่ยงคืนวันที่ 26 ก.พ.
แต่เมื่อเส้นตายใกล้มาถึง รัฐบาลทรัมป์ก็ยื่นคำร้องต่อศาลสูงสุดเพื่อขอระงับคำสั่งของศาลชั้นก่อน อ้างว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในระยะเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม ในวันพุธที่ 5 มี.ค. ผู้พิพากษาศาลสูงสุดลงความเห็นด้วยคะแนน 5 ต่อ 4 ปฏิเสธคำร้องของรัฐบาลทรัมป์ และบอกให้รัฐบาลปฏิบัติตามคำสั่งศาล
ด้านผู้พิพากษา ซามูเอล อาลิโต ฝ่ายอนุรักษ์นิยม เป็น 1 ใน 4 ผู้พิพากษาศาลสูงสุดที่โหวตไม่เห็นด้วยกับคำสั่งของศาลชั้นก่อน ระบุในแถลงการณ์ว่า
“ผู้พิพากษาศาลแขวงเพียงคนเดียว ซึ่งไม่น่าจะมีอำนาจตุลาการเพียงพอแต่กลับมีอำนาจไร้ขีดจำกัดในการบังคับให้รัฐบาลสหรัฐฯ จ่ายเงินภาษีของประชาชนจำนวน 2 พันล้านดอลลาร์ (และน่าจะสูญเสียไปตลอดกาล) เลยหรือ?” “คำตอบของคำถามนั้นควรจะเป็น ‘ไม่’ แต่ดูเหมือนเสียงส่วนใหญ่ของศาลนี้จะไม่คิดแบบนั้น ผมนี่อึ้งเลย”
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากองค์กรช่วยเหลือ 2 กลุ่มฟ้องร้องคัดค้านคำสั่งระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศเป็นเวลา 90 วันของนายทรัมป์ ซึ่งผู้พิพากษาอาลีสั่งระงับการตัดงบฯ ดังกล่าวไว้ก่อน ระหว่างการทบทวนคดี ก่อนจะมีคำสั่งให้รัฐบาลจ่ายเงินในส่วนของงานที่ทำเสร็จไปแล้ว หลังรัฐบาลไม่ยอมปฏิบัติตามสัญญา
...
กระบวนการทางกฎหมายของคดีนี้ยังคงดำเนินต่อไป โดยศาลแขวงจะมีการพิจารณาคำร้องของผู้ทำสัญญา ที่ขอให้ศาลขยายเวลามอบเงินช่วยเหลือออกไปอีก ในวันพฤหัสบดีนี้ (6 มี.ค.)
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc