ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แถลงต่อที่ประชุมร่วมวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ หลังการรับตำแหน่งครั้งแรก โดยประกาศว่าอเมริกากลับมาแล้ว แต่เจอเสียงโห่และการประท้วงจากสมาชิกรัฐสภาพรรคเดโมแครตบางคน ซึ่งชูป้ายและเดินออกจากห้องประชุม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แถลงต่อที่ประชุมร่วมวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการกล่าวปราศรัยต่อสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ และชาวอเมริกันทั่วประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สาบานตนรับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา แต่เจอเสียงโห่และการประท้วงจากสมาชิกรัฐสภาพรรคเดโมแครตบางคน ซึ่งชูป้ายและเดินออกจากห้องประชุม

ทรัมป์เริ่มต้นการแถลง ท่ามกลางเสียงเชียร์และปรบมือจากสมาชิกพรรครีพับลิกัน "สำหรับพลเมืองของผม อเมริกากลับมาแล้ว" ขณะที่สมาชิกพรรคเดโมแครตนั่งเฉยและไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆ เขากล่าวว่าจนถึงตอนนี้ รัฐบาลของเขาได้ทำมากกว่ารัฐบาลอื่นๆ ตลอดสี่ปีที่ผ่านมา "และเราเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น"

ทรัมป์กล่าวว่า รัฐบาลของเขาทำสิ่งต่าง ๆ สำเร็จในช่วงเวลา 43 วัน มากกว่าที่รัฐบาลส่วนใหญ่ทำสำเร็จใน 4 ปี หรือ 8 ปี และอ้างว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ที่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่เชื่อว่าประเทศเดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่ทรัมป์พูดได้ไม่ถึง 10 นาที สมาชิกพรรคเดโมแครตได้ขัดจังหวะด้วยการโห่ ทำให้นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครีพับลิกัน ต้องกล่าวเตือน และสั่งให้ตำรวจศาลเชิญตัวนายอเล็กซานเดอร์ กรีน สส.รัฐเท็กซัส พรรคเดโมแครต ออกจากที่ประชุม หลังจากนายกรีนลุกขึ้นยืนและชูไม้เท้าขึ้น พร้อมกับตะโกนว่า ทรัมป์ไม่มีอำนาจในการปกครอง

ในขณะที่ปธน.ทรัมป์กล่าวคำปราศรัย สส. พรรคเดโมแครตกว่า 20 คนถือป้ายขาวดำที่เขียนว่า "Save Medicaid" และ "Musk Steals" บางคนถือป้ายที่มีข้อความเช่น "No King" และ "This Is NOT Normal" และสส. หลายคน ได้เดินออกจากห้องประชุมระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์

...

ทรัมป์กล่าวว่า "ความฝันแบบอเมริกันไม่อาจหยุดยั้งได้" ก่อนจะคุยโวเกี่ยวกับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ซึ่งเขาเรียกว่า "เป็นสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในรอบหลายทศวรรษ" ทรัมป์กล่าวว่าเขาชนะทั้ง 7 รัฐสำคัญและคะแนนนิยม ซึ่งเป็นสิ่งที่พรรครีพับลิกันไม่เคยทำได้ในรอบหลายทศวรรษ

การกล่าวสุนทรพจน์ในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ ซึ่งถือเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาครั้งแรกของเขาตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคม ปิดท้ายวันที่สองท่ามกลางความปั่นป่วนของตลาดหุ้น หลังจากที่เขาได้กำหนดมาตรการภาษีศุลกากรใหม่ต่อเม็กซิโก แคนาดา และจีน

จากข้อมูลของ The American Presidency Project ระบุว่า การกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้กินเวลานานถึง 100 นาที ถือเป็นการกล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาของประธานาธิบดีที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของสหรัฐฯ

เขาให้คำมั่นว่าจะรักษาสมดุลของงบประมาณของรัฐบาลกลาง ในขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาบังคับใช้แผนงานลดหย่อนภาษีครั้งใหญ่ ซึ่งนักวิเคราะห์ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดระบุว่า อาจทำให้หนี้ของรัฐบาลกลางเพิ่มขึ้นมากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ จากภาระหนี้ทั้งหมด 36 ล้านล้านดอลลาร์ รัฐสภาจะต้องดำเนินการเพื่อเพิ่มเพดานหนี้ของประเทศในช่วงปลายปีนี้ มิฉะนั้นจะเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้อย่างร้ายแรง

ทรัมป์ยังกล่าวย้ำจุดยืนเดิมที่จะกำหนดภาษีศุลกากรเพิ่มเติมในวันที่ 2 เมษายน ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวน่าจะทำให้ตลาดการเงินปั่นป่วนมากขึ้น "ประเทศอื่นๆ ใช้ภาษีศุลกากรกับเรามานานหลายทศวรรษแล้ว และตอนนี้ก็ถึงคราวของเราที่จะเริ่มใช้ภาษีศุลกากรกับประเทศอื่นๆ เหล่านั้น"

ทรัมป์เรียกร้องให้รัฐสภาขยายเวลาการลดหย่อนภาษีประจำปี 2017 ของเขา สมาชิกรัฐสภาจากพรรครีพับลิกันได้เสนอแผนงานที่ครอบคลุมมูลค่า 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ ที่จะขยายเวลาการลดหย่อนภาษี เพิ่มความเข้มงวดด้านความปลอดภัยที่ชายแดน และจัดสรรงบประมาณสำหรับการเพิ่มจำนวนผู้ถูกเนรเทศ

ข้อเสนอเรียกร้องให้ลดค่าใช้จ่าย 2 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปี โดยอาจลดค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และบริการสังคมอื่นๆ

คณะกรรมการเพื่องบประมาณกลางที่รับผิดชอบซึ่งไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดประมาณการว่า วาระภาษีทั้งหมดของทรัมป์ รวมถึงการยกเลิกภาษีทิป ค่าล่วงเวลา และสวัสดิการประกันสังคม อาจมีค่าใช้จ่ายระหว่าง 5 ล้านล้านดอลลาร์ถึง 11.2 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปี.

ที่มา Reuters

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign