โป๊ปฟรานซิสมีอาการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน 2 ครั้งในวันจันทร์ และต้องกลับไปใช้เครื่องช่วยหายใจอีกครั้ง โดยวาติกันยืนยันว่าพระองค์ยังทรงตื่นตัว และร่วมมือกับการรักษาเป็นอย่างดี

สำนักวาติกันอัปเดตอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เมื่อเย็นวันจันทร์ที่ 3 มี.ค. 2568 โดยระบุว่า พระองค์ประสบภาวะการหายใจล้มเหลวเฉียบพลัน 2 ครั้ง (acute respiratory failure) อันเป็นผลจากการสะสมอย่างมีนัยสำคัญของเสมหะในหลอดลม จนทำให้ทางเดินหายใจแคบลง

แถลงการณ์ของวาติกันบอกอีกว่า ในช่วงเช้า โป๊ปฟรานซิสต้องรับการตรวจส่องกล้องหลอดลม ซึ่งแพทย์ทำการดูดสารคัดหลั่งที่ก่อตัวสะสมออกไป จากนั้นในช่วงบ่าย โป๊ปฟรานซิสต้องกลับไปใช้หน้ากากออกซิเจนและเครื่องช่วยหายใจแบบไม่สอดท่ออีกครั้ง ซึ่งตลอดวันพระองค์ยังคงตื่นตัว และให้ความร่วมมือกับการรักษาเป็นอย่างดี

“นี่เป็นช่วงบ่ายที่ซับซ้อน” แหล่งข่าวในวาติกันบอกกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เมื่อเย็นวันจันทร์ “การสะสมของเสมหะอันเป็นผลจากโรคปอดบวม ทำให้เกิดอาการไอและการหดเกร็ง เนื่องจากหลอดลมพยายามขับเสมหะที่ทำให้ระคายเคืองออกไป”

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุว่า วิกฤติทางเดินหายใจเฉียบพลันซึ่งกินระยะเวลาช่วงหนึ่งของตอนบ่าย ยุติลงแล้ว และโป๊ปฟรานซิส พระชนมายุ 88 พรรษา กำลังทรงพักผ่อน ขณะที่ผลการตรวจเลือดยังไม่มีความเปลี่ยนแปลง และแพทย์ยังไม่มีการทำนายโรคใดๆ

ทั้งนี้ โป๊ปฟรานซิสเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 ก.พ. หลังมีอาการปอดอักเสบ โดยผลการตรวจพบว่าพระองค์มีอาการปอดบวมที่ปอดทั้ง 2 ข้าง โดยในวันเสาร์ที่ 22 ก.พ. วาติกันใช้คำว่าโป๊ปฟรานซิสอยู่ในอาการวิกฤติเป็นครั้งแรก แต่อาการของพระองค์ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจนออกจากภาวะวิกฤติได้เมื่อสัปดาห์ก่อน

...

อย่างไรก็ตาม โป๊ปฟรานซิสเกิดอาการหดเกร็งของหลอดลม (bronchospasm) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 ก.พ.) ทำให้เกิดการอาเจียนและอาการทางเดินหายใจทรุดลงเฉียบพลัน ทำให้ต้องรับออกซิเจนผ่านทางหน้ากากเพื่อช่วยเรื่องการหายใจ และทีมแพทย์ต้องติดตามผลที่ตามมาจากเหตุการณ์นี้อย่างใกล้ชิด

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cnn