อินโดฯเฆี่ยนหลังชายหนุ่ม 2 คนที่ถูกศาลชารีอะห์ตัดสินว่ามีความผิดฐานมีเพศสัมพันธ์กัน ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายอิสลาม โดยเป็นการลงโทษกลางแจ้งต่อหน้าสาธารณชน

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ศาลชารีอะห์ ในจังหวัดอาเจะห์ ของอินโดนีเซีย ลงโทษด้วยการใช้ไม้เฆี่ยนหลังชายหนุ่ม 2 คน อายุ 18 ปี และ 24 ปี ที่ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดตามกฎหมายอิสลาม ฐานมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกัน โดยมีประชาชนหลายสิบคนเข้าชมการลงโทษที่จัดขึ้นภายในลานศาลาว่าการบุสตันนุสซาลาติน เมืองบันดาอาเจะห์ 

โดยผู้ต้องหาได้รับอนุญาตให้พักดื่มน้ำหลังทำการเฆี่ยนไป 20 ครั้ง และได้รับการปฐมพยาบาลแผลที่เกิดขึ้น จากนั้นหนึ่งในผู้ต้องหาต้องถูกพยุงออกจากสถานที่ลงโทษ เนื่องจากอ่อนแรงเกินกว่าจะเดินได้หลังจากถูกเฆี่ยนครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ยังมีบุคคลอีก 2 คนถูกลงโทษในคดีอื่น ด้วยการเฆี่ยน 34 และ 8 ครั้ง เนื่องจากกระทำผิดฐานเล่นการพนัน

สื่อท้องถิ่นของอินโดนีเซีย รายงานว่า โดยทั้งสองคนถูกจับกุมตัวเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว หลังชาวบ้านสงสัยว่าพวกเขามีพฤติกรรมเป็นเกย์ และได้แอบเข้าไปในห้องพักที่พวกเขาเช่าอยู่ด้วยกันและพบว่าทั้งสองคนกำลังเปลือยกายและกอดกัน ชาวบ้านจึงรีบแจ้งนำตัวส่งตำรวจชารีอะห์

จากนั้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ศาลชารีอะห์ตัดสินให้ชายทั้งสองรับโทษเฆี่ยนหลัง จำนวน 85 และ 80 ครั้งตามลำดับ แต่พวกเขาได้รับการลดโทษให้เหลือ 82 และ 77 ครั้ง 

ทั้งนี้ อาเจะห์ เป็นจังหวัดเดียวของอินโดนีเซียที่บังคับใช้กฎหมายอิสลาม และนี่เป็นครั้งที่ 4 ที่จังหวัดอาเจะห์บังคับใช้โทษเฆี่ยน สำหรับผู้มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ นับตั้งแต่กฎหมายชารีอะห์เริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2549 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่รัฐบาลอินโดนีเซียให้แก่จังหวัดนี้ เพื่อยุติความขัดแย้งแบ่งแยกดินแดนที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน โดยการกระทำผิดด้านศีลธรรม อาทิ การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน และการมีเพศสัมพันธ์นอกสมรส อาจได้รับโทษเฆี่ยนสูงสุด 100 ครั้ง อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายฉบับก่อนหน้าที่เสนอให้มีการลงโทษประหารชีวิตด้วยการปาก้อนหินสำหรับผู้กระทำผิดฐานคบชู้ ถูกยกเลิกไปหลังจากเผชิญแรงกดดันจากรัฐบาลกลาง.

...