โดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วางแผนกำหนดอัตราภาษีศุลกากรแก่ประเทศที่สหรัฐฯ ขาดดุลทางการค้า เพื่อเพิ่มรายได้ให้สหรัฐฯ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารอีกฉบับในวันพฤหัสบดีที่ 13 ก.พ. 2568 ออกคำสั่งให้หน่วยงานต่างๆ วางแผนเพื่อการตั้งภาษีศุลกากรตอบโต้ (reciprocal tariff) ที่จะสามารถช่วยเพิ่มรายได้ของสหรัฐอเมริกา ท่ามกลางความกังวลว่าจะเกิดสงครามการค้าขึ้นทั่วโลก และดันอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ให้สูงขึ้น

การกำหนดภาษีศุลกากรตอบโต้ เป็นหนึ่งในมาตรการที่โดนัลด์ ทรัมป์ สัญญาไว้ตอนหาเสียงว่าจะทำ เพื่อปรับสมดุลทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศอื่นๆ เพื่อแก้ไขสิ่งที่เขาเรียกว่า การค้าขายที่ไม่ยุติธรรม

“พวกเขาเก็บภาษีหรือภาษีศุลกากรสินค้าของเรา เราก็เก็บภาษีพวกเขาแบบเดียวกันได้เหมือนกัน” นายทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวในวันพฤหัสบดี ที่ห้องทำงานรูปไข่ ก่อนจะลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีชื่อว่า “แผนการตอบโต้และความเป็นธรรม” (Fair and Reciprocal Plan)

“ไม่มีใครรู้ว่าตัวเลขจะอยู่ที่เท่าไร ถ้าไม่ดูไปทีละประเทศ” นายทรัมป์กล่าว และเสริมว่า การคำนวณว่าควรจัดเก็บภาษีและกำหนดอัตราศุลกากรตอบโต้ประเทศอื่นๆ เป็นจำนวนเท่าใด จะทำให้รัฐบาลของเขาสามารถพิจารณาประเทศที่มีการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ซึ่งเลวร้ายกว่าภาษีศุลกากร เข้าไปด้วย

นายทรัมป์ระบุว่า อเมริกาต้องการนโยบายการค้าที่เป็นธรรมกว่านี้ ที่ทำให้สินค้าของสหรัฐฯ มีแรงดึงดูดในตลาดเพิ่มขึ้น

เอกสารสรุปข้อมูลสำคัญของคำสั่งล่าสุดของนายทรัมป์ที่ทำเนียบขาวสหรัฐฯ เผยแพร่ออกมา ระบุว่า “สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจเปิดกว้างที่สุดในโลก แต่คู่ค้าของเรากลับปิดตลาดของพวกเขาต่อสินค้าส่งออกของเรา การขาดการพึ่งพาอาศัยกันแบบนี้ ไม่เป็นธรรม และมีส่วนทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้ารายปีจำนวนมากและต่อเนื่อง”

...

เอกสารยังระบุถึงอินเดียเป็นพิเศษด้วยว่า แดนภารตะเก็บภาษีนำเข้ารถจักรยานยนต์สหรัฐฯ สูงถึง 100% ขณะที่สหรัฐฯ เก็บภาษีศุลกากรรถจักรยานยนต์ของอินเดียเพียง 2.4% เท่านั้น ซึ่งอาจหมายความว่า รัฐบาลทรัมป์กำลังพิจารณาขึ้นภาษีสินค้าอินเดียเป็นจำนวนมาก

ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign

ที่มา : cnn