แหล่งข่าวเผยบริษัท นิสสัน อาจยกเลิกการเจรจาควบรวมกิจการกับฮอนด้า โดยคณะกรรมการบริหารของนิสสัน มีกำหนดจะประชุมกันในเร็วๆ นี้ เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติ
แหล่งข่าวเปิดเผยว่าบริษัท นิสสัน ของญี่ปุ่น อาจยกเลิกการเจรจาควบรวมกิจการกับฮอนด้า โดยคณะกรรมการบริหารของนิสสัน มีกำหนดจะประชุมกันในอนาคตอันใกล้นี้เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติ
ความคืบหน้าดังกล่าวทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อตกลงที่จะส่งผลให้บริษัทกลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก เมื่อพิจารณาจากยอดขาย และยังทำให้เกิดคำถามใหม่ว่านิสสัน ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจะสามารถผ่านพ้นวิกฤตครั้งล่าสุดนี้ไปได้อย่างไร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากภายนอก
รายงานการยุติการเจรจาควบรวมกิจการ ส่งผลให้ราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทปรับตัวสูงขึ้นในวันพุธ โดยหุ้นของฮอนด้า ปรับตัวขึ้นมากกว่า 2% และนิสสันปรับตัวขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับดัชนีนิกเกอิ 225 ที่ปรับตัวลดลงเล็กน้อย
เมื่อปีที่แล้วฮอนดา ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น และนิสสันซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 เปิดเผยว่ากำลังหารือกันเพื่อควบรวมกิจการ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่เผชิญกับภัยคุกคามครั้งใหญ่จาก BYD ของจีนและบริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายใหม่รายอื่น
อย่างไรก็ตาม การเจรจาดังกล่าวมีความซับซ้อนมากขึ้นเนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีความเห็นไม่ตรงกันมากขึ้น ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าว 2 รายที่ทราบเรื่องดังกล่าวเปิดเผย โดยทั้งคู่ขอไม่เปิดเผยชื่อเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ
แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า คณะกรรมการบริหารของนิสสัน มีกำหนดประชุมเร็วๆ นี้เพื่อหารือเกี่ยวกับการยุติการเจรจาควบรวมกิจการ หลังจากที่ฮอนด้าออกมาชี้แจงเกี่ยวกับการเป็นบริษัทลูก พร้อมเสริมว่าข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นการเบี่ยงเบนจากเจตนารมณ์เดิมในการหารือ
...
แหล่งข่าวอีกรายกล่าวว่า ฮอนด้าซึ่งมีมูลค่าตลาดมากกว่านิสสันเกือบ 5 เท่า เริ่มแสดงความกังวลเกี่ยวกับความคืบหน้าของคู่แข่งรายเล็กกว่าในแผนฟื้นฟูกิจการ ก่อนหน้านี้ หนังสือพิมพ์อาซาฮี ชิมบุน ของญี่ปุ่นรายงานว่า การควบรวมกิจการอาจถูกยกเลิก
ด้านโฆษกของทั้งสองบริษัทไม่ได้แสดงความเห็นว่าการเจรจาควบรวมกิจการถูกยกเลิกหรือไม่ แต่ระบุว่าพวกเขาจะประกาศให้ทราบในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ตามที่ได้แจ้งไว้ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ นิสสันได้รับผลกระทบหนักกว่าผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ จากความนิยมรถยนต์ไฟฟ้า โดยไม่สามารถฟื้นตัวได้อย่างเต็มที่หลังจากเผชิญวิกฤตหลายปี ที่เกิดจากการจับกุมและปลดนายคาร์ลอส กอส์น อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เมื่อปี 2018
การเจรจาร่วมกันนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศการเก็บภาษีจากหลายประเทศ นักวิเคราะห์ระบุว่านิสสันอาจจะได้รับผลกระทบมากกว่าฮอนด้าหรือโตโยต้า
ด้านเรโนลต์ซึ่งเป็นพันธมิตรระยะยาวของนิสสัน กล่าวว่าจะเปิดกว้างสำหรับการควบรวมกิจการกับฮอนด้า โดยผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศสรายนี้ถือหุ้นนิสสัน อยู่ 36% รวมถึง 18.7% ผ่านทรัสต์ของฝรั่งเศส.
ที่มา Reuters
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign