- ข่าวการเสียชีวิตของนักแสดง "ต้าเอส" สวีซีหยวน ที่เคยรับบท "ซานไช่" นางเอกสาวจากซีรีส์ดัง “รักใสใส หัวใจสี่ดวง" เสียชีวิตกะทันหันด้วยอาการปอดอักเสบจากไข้หวัดใหญ่ ในช่วงเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในญี่ปุ่น
- ขณะที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ที่รุนแรงที่สุดในรอบ 26 ปี โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมสูงกว่า 9.5 ล้านคน ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขเป็นอย่างมาก
โรคไข้หวัดใหญ่เป็นโรคติดเชื้อที่แพร่ระบาดได้ง่าย โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่มีสภาพอากาศเย็น ซึ่งเหมาะสมต่อการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส ในปีนี้ ประเทศญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ที่รุนแรงที่สุดในรอบ 26 ปี โดยมีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมสูงกว่า 9.5 ล้านคน ตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่ผ่านมา
สถานการณ์รุนแรงได้ส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขเป็นอย่างมากและนำไปสู่การเสียชีวิตของบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น สวีซีหยวน ดาราสาวชาวไต้หวัน ซึ่งเป็นกรณีที่ได้รับความสนใจจากสาธารณชนอย่างกว้างขวาง
การเสียชีวิตของสวีซีหยวน
สวีซีหยวน นักแสดงและนางแบบชาวไต้หวัน วัย 48 ปี เสียชีวิตที่ญี่ปุ่น หลังจากเดินทางไปท่องเที่ยวกับครอบครัวแล้วเกิดล้มป่วยจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และเกิดภาวะแทรกซ้อนจนเป็นปอดอักเสบอย่างรุนแรง
สื่อไต้หวันระบุว่า "เสี่ยวเอส"น้องสาวของต้าเอส ได้แจ้งข่าวร้ายการเสียชีวิตของพี่สาวกับทางผู้จัดการส่วนตัวไว้ว่า ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง และเล่าว่า ในช่วงวันหยุดปีใหม่ ทางครอบครัวได้เดินทางไปท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น แต่แล้วต้าเอสก็ต้องจากไปเพราะภาวะแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่
...
รายงานข่าวระบุว่า เธอมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัด แต่ยังคงเดินทางไปท่องเที่ยวกับครอบครัวที่ญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 จากนั้นอีก 1-2 วัน อาการป่วยของเธอยังไม่ดีขึ้น มีอาการไอและหอบหืด จึงพักผ่อนอยู่ในที่พักที่เมืองฮาโกเนะ และต่อมาในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ อาการของเธอทรุดหนัก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในฮาโกเนะ
แต่เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็ก ไม่สามารถรักษาได้ แพทย์จึงแนะนำให้ไปโรงพยาบาลที่ใหญ่กว่า และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และในวันรุ่งขึ้นอาการของเธอแย่ลงในช่วงกลางดึก ครอบครัวเรียกรถพยาบาลเพื่อนำส่งโรงพยาบาล แต่เธอเสียชีวิตในเวลา 07.00 น. ของวันนั้น
กรณีการเสียชีวิตของเธอสร้างความตกใจและตื่นตระหนกให้กับแฟน ๆ รวมถึงประชาชนทั่วไป เนื่องจากไข้หวัดใหญ่มักถูกมองว่าเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรงนักสำหรับคนทั่วไปที่มีสุขภาพแข็งแรง อย่างไรก็ตาม กรณีของอวี้สวี่เฉียนเป็นเครื่องเตือนใจว่าหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ไข้หวัดใหญ่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ผลกระทบจากการเสียชีวิตของต้าเอส ยังสะท้อนให้เห็นถึงข้อจำกัดบางประการของระบบสาธารณสุขญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ แม้ว่าญี่ปุ่นจะมีระบบบริการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า แต่เมื่อจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โรงพยาบาลและสถานพยาบาลก็ต้องรับภาระหนัก ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามารถในการให้บริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

สถานการณ์การระบาดโรคไข้หวัดใหญ่ในญี่ปุ่น
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ในปีนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ อาทิ โตเกียว โอซาก้า และฟุกุโอกะ ซึ่งมีรายงานการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง โรงพยาบาลหลายแห่งต้องเผชิญกับภาวะเตียงเต็มและบุคลากรทางการแพทย์ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อดูแลผู้ป่วย
ปีนี้พบว่ามีผู้ป่วยที่เกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ มากขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับสายพันธุ์ของไวรัสที่กำลังระบาด นอกจากนี้ หลังจากที่ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติหลังการระบาดของโควิด-19 ความเข้มงวดในการป้องกันโรค เช่น การสวมหน้ากากอนามัยและการรักษาระยะห่างทางสังคม ก็ลดลง ส่งผลให้โรคไข้หวัดใหญ่สามารถแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น
โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองโยโกฮาม่า ใกล้กรุงโตเกียว เปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยที่เดินทางมาด้วยรถพยาบาลพร้อมกับอาการไข้สูงหรืออาการอื่นๆ เพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธันวาคม
ปัจจุบันโรงพยาบาลต่างๆ อาทิ โรงพยาบาลไซเซไก ในเมืองโยโกฮามา รับผู้ป่วยฉุกเฉินเพิ่มขึ้น 1.5 เท่าจากปกติ โดยในบางกรณี ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรังอาจต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน โดยทางโรงพยาบาลแจ้งว่า ขณะนี้ความจุเตียงผู้ป่วยประมาณ 550 เตียงของโรงพยาบาลกำลังประสบปัญหาเตียงไม่พอรองรับผู้ป่วย นอกจากนี้ โรงพยาบาลยังประสบปัญหาในการจัดหาบุคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากการติดเชื้อแพร่กระจายไปยังแพทย์และพยาบาล ทำให้พวกเขาไม่สามารถทำงานได้
ทางด้านนายชิมิสึ มาซายูกิ หัวหน้าศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินของโรงพยาบาลไซเซไก ชี้ให้เห็นว่าโรงพยาบาลจำเป็นต้องรับผู้ป่วยนอกเหนือจากผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ด้วย และเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการมีมาตรการรับมือขั้นพื้นฐาน พร้อมกล่าวว่าเขารู้สึกจำเป็นที่จะต้องทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานบริหารและสถาบันการแพทย์ในท้องถิ่นเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วน
...

ความเสี่ยงและข้อควรระวังสำหรับนักท่องเที่ยว
ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของญี่ปุ่นระบุว่า แม้การระบาดของไข้หวัดใหญ่จะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล แต่ในปีนี้สถานการณ์อาจรุนแรงกว่าปกติ นักเดินทางจึงควรติดตามข่าวสารจากหน่วยงานสาธารณสุข และปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างปลอดภัย การเตรียมตัวอย่างรอบคอบและการป้องกันล่วงหน้าจะช่วยลดความเสี่ยง และทำให้สามารถท่องเที่ยวได้อย่างมั่นใจในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรค
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า สิ่งสำคัญคือการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ก่อนเดินทาง ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเป็นอันตราย โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง อาทิ ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ขณะเดียวกันการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันผ่านการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การพักผ่อนให้เพียงพอ และการออกกำลังกายสม่ำเสมอ ยังเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและสามารถต้านทานโรคได้ดียิ่งขึ้น.