เหตุเครื่องบินขนส่งผู้ป่วยตกใส่บ้านเรือนในฟิลาเดลเฟีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 ศพ เป็นคนบนเครื่อง 6 ศพกับผู้เคราะห์ร้ายบนพื้นดินอีก 1 ศพ และมีผู้บาดเจ็บอีก 19 ราย
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายกเทศมนตรีเมืองฟิลาเดลเฟีย ในรัฐเพนซิลเวเนีย ของสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ยืนยันในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ. 2568 ว่า เหตุเครื่องบินเล็กขนผู้ป่วยซึ่งตกใส่บ้านเรือนในเมืองฟิลาเดลเฟีย เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (31 ม.ค.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 7 ศพ เป็นผู้ที่อยู่บนเครื่อง 6 ศพ และผู้เคราะห์ร้ายบนพื้นดินอีก 1 ราย
นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 19 ราย โดยเป็นผู้คนที่อยู่บนพื้น ทั้งในบริเวณลานจอดรถ, บนถนน, ในรถยนต์ และในบ้านหลายหลังในพื้นที่
ด้าน น.ส.คลอเดียน แชนบาม ประธานาธิบดีเม็กซิโกยืนยันว่า ผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 6 คนบนเครื่องบินลำนี้เป็นชาวเม็กซิโก ซึ่งทางการได้ติดต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตเพื่อแสดงความเสียใจ และให้ความช่วยเหลือใดๆ ก็ตามที่จำเป็นแล้ว
ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของฟิลาเดลเฟีย ใกล้ห้างสรรพสินค้า “รูสเวลต์ มอลล์” บนถนนคอตต์แมนและบัสเซิลตัน อเวนิว เมื่อเวลาประมาณ 18.10 น. วันศุกร์ที่ 31 ม.ค. 2568 ตามเวลาท้องถิ่น
โดยเครื่องบินเอกชน “เลียร์เจ็ท 55” สำหรับการขนส่งทางการแพทย์ กำลังออกเดินทางจากสนามบินนอร์ทอีสต์ ฟิลาเดลเฟีย ซึ่งผู้มาอยู่บนเครื่องบินประกอบด้วย นักบิน, ผู้ช่วยนักบิน, หมอ, หน่วยกู้ชีพ กับแม่และลูกสาวคู่หนึ่ง ซึ่งทั้งหมดเสียชีวิตในเหตุการณ์นี้
บันทึกการบินแสดงให้เห็นว่า เครื่องบินลำนี้อยู่บนอากาศได้เพียง 1 นาทีเท่านั้นก่อนจะตกลงมา
ไช โกลด์ โฆษกขององค์กร “Jet Rescue Air Ambulance” ผู้ให้บริการขนส่งทางการแพทย์ทางอากาศ ระบุว่า เด็กหญิงที่เสียชีวิต มารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลเด็ก “ไชรเนอร์ส ชิลเดรน” (Shriners Children's) ด้วยอาการเป็นอันตรายถึงชีวิต ซึ่งการรักษาเสร็จสิ้นแล้ว และเธอกำลังเดินทางกลับบ้านที่เมืองติฮัวนา ของเม็กซิโก แต่เกิดเหตุขึ้นเสียก่อน
...
ขณะที่เจ้าหน้าที่สืบสวนจากคณะกรรมการความปลอดภัยการคมนาคมแห่งชาติของสหรัฐฯ (NTSB) เปิดเผยในวันเสาร์ว่า พวกเขายังคงค้นหาอุปกรณ์บันทึกเสียงในห้องนักบิน (CVR) ซึ่งเป็นหนึ่งในกล่องดำ และกำลังเก็บรวบรวมหลักฐานอื่นๆ เพื่อหาสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้นกับเครื่องบินลำนี้กันแน่
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn