นิวซีแลนด์มอบสิทธิทางกฎหมายเทียบเท่าบุคคลให้กับภูเขาทารานากิ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวเมารี ตามกฎหมายใหม่ที่เพิ่งได้รับการรับรอง
นิวซีแลนด์มอบสิทธิทางกฎหมายเทียบเท่าบุคคลให้กับภูเขาทารานากิ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวเมารี ตามกฎหมายใหม่ที่เพิ่งได้รับการรับรอง หลังจากการเจรจานานหลายปี
ข้อตกลงนี้หมายความว่า ภูเขาทารานากิ จะเป็นเจ้าของตัวเองโดยสมบูรณ์ โดยตัวแทนของชนเผ่าในพื้นที่ ชาวอีวี และรัฐบาลทำงานร่วมกันเพื่อบริหารจัดการข้อตกลงนี้ ข้อตกลงดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อชดเชยให้กับชาวเมารี จากภูมิภาคทารานากิ ต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับพวกเขาในระหว่างการล่าอาณานิคม รวมถึงการถูกยึดครองที่ดินจำนวนมาก
ร่างกฎหมายเยียวยาภูเขาทารานากิ ได้รับการอนุมัติให้เป็นกฎหมายโดยรัฐสภาของนิวซีแลนด์เมื่อวันพฤหัสบดี (30 ม.ค.) โดยให้ชื่อทางกฎหมายแก่ภูเขาแห่งนี้และการปกป้องยอดเขาและพื้นที่โดยรอบ
กฎหมายดังกล่าวยังยอมรับโลกทัศน์ของชาวเมารีที่ว่าลักษณะทางธรรมชาติ รวมถึงภูเขา เป็นบรรพบุรุษและสิ่งมีชีวิต และภูเขาแห่งนี้จะไม่ถูกเรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า "เอ็กมอนต์" อีกต่อไป ซึ่งเป็นชื่อที่เจมส์ คุก นักสำรวจชาวอังกฤษตั้งให้ในศตวรรษที่ 18 แต่จะเรียกกันว่าทารานากิ แทน ส่วนอุทยานแห่งชาติโดยรอบก็จะใช้ชื่อตามภาษาเมารีเช่นกัน
การจัดการปัญหาเรื่องภูเขาทารานากิ นับเป็นการดำเนินการครั้งล่าสุดต่อชาวเมารี เพื่อพยายามชดเชยการละเมิดสนธิสัญญาไวตังกิ ซึ่งสถาปนาประเทศนิวซีแลนด์ให้เป็นประเทศและมอบสิทธิบางประการในที่ดินและทรัพยากรให้แก่ชนพื้นเมือง
การมอบสิทธิทางกฎหมายดังกล่าวยังมาพร้อมกับคำขอโทษจากรัฐบาลสำหรับการยึดภูเขาทารานากิ และที่ดินกว่าหนึ่งล้านเอเคอร์จากชาวเมารีในท้องถิ่นในช่วงทศวรรษปี 1860
...
นายพอล โกลด์สมิธ รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการเจรจา กล่าวยอมรับว่า "การละเมิดสนธิสัญญาส่งผลให้ขนพื้นเมืองหลายกลุ่มได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวงและทวีคูณ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายอย่างประเมินค่าไม่ได้ตลอดหลายทศวรรษ" เขากล่าวเสริมว่า มีการตกลงกันว่าการเข้าถึงภูเขาแห่งนี้จะไม่เปลี่ยนแปลง และ "ชาวนิวซีแลนด์ทุกคนจะสามารถเยี่ยมชมและเพลิดเพลินกับสถานที่ที่งดงามที่สุดแห่งนี้ต่อไปได้อีกหลายชั่วอายุคน"
ภูเขาแห่งนี้ไม่ใช่ลักษณะทางธรรมชาติแห่งแรกของนิวซีแลนด์ที่ได้รับสถานะบุคคลตามกฎหมาย ในปี 2014 ป่าในอุทยานแห่งชาติอูเรเวรา กลายเป็นพื้นที่แห่งแรกที่ได้รับสถานะดังกล่าว ตามมาด้วยแม่น้ำวังกานุย ในปี 2017.
ที่มา BBC
อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign