รัฐบาลทรัมป์สั่งระงับความช่วยเหลือที่สหรัฐฯ มอบให้แก่ต่างประเทศเกือบทั้งหมดแล้ว โดยจะพิจารณาเป็นเวลา 90 วันว่าจะอนุมัติเงินสนับสนุนหรือไม่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 24 ม.ค. 2568 นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ สั่งระงับความช่วยเหลือสำหรับต่างประเทศเกือบทั้งหมด ยกเว้นสำหรับอิสราเอลและอียิปต์ ตามที่ระบุไว้ในจดหมายเหตุที่ส่งถึงพนักงานภายในกระทรวงต่างประเทศ
“จะไม่มีการมอบความช่วยเหลือใหม่ หรือขยายความช่วยเหลือที่มีอยู่แล้ว จนกว่าความช่วยเหลือหรือการขยายเวลานั้นๆ จะผ่านการทบทวนตลอด 85 วันข้างหน้า และได้รับอนุมัติอีกครั้ง ...ตามนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์” จดหมายเหตุดังกล่าวระบุ
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวล่าสุดของนายรูบิโอเป็นไปตามคำสั่งฝ่ายบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศเมื่อ 20 ม.ค. 2568 ว่า จะระงับการพิจารณาความช่วยเหลือด้านการพัฒนาที่มอบให้แก่ต่างประเทศ เป็นเวลา 90 วัน แต่ยังไม่แน่ชัดว่าคำสั่งนี้จะตัดงบประมาณได้บ้าง เนื่องจากสภาคองเกรสได้จัดสรรการใช้จ่ายของรัฐบาลเอาไว้แล้ว
อย่างไรก็ตาม คำสั่งนี้ดูเหมือนจะส่งผลกระทบต่อทุกอย่างตั้งแต่ความช่วยเหลือด้านการพัฒนาไปจนถึงความช่วยเหลือทางทหาร ซึ่งอาจรวมถึงความช่วยเหลือแก่ยูเครน ซึ่งที่ผ่านมาสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลไบเดน ได้จัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์แก่เคียฟแล้วมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อต้านทานการรุกรานจากรัสเซีย
อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ (USAid) เปิดเผยโดยไม่ขอระบุนามว่า คำสั่งนี้จะทำให้หลายองค์กรต้องหยุดกิจกรรมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นบริการด้านสุขภาพที่อาจช่วยชีวิตคน, การรักษาเอชไอวี, โภชนาการ, สุขภาพแม่และเด็ก, งานด้านการเกษตร การสนับสนุนองค์กรประชาสังคมทั้งหมด และด้านการศึกษา
...
ส่วนเจ้าหน้าที่ของ USAid อีกคน ระบุว่า เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโครงการต่างๆ ในยูเครน ถูกบอกให้หยุดงานทั้งหมด โดยหนึ่งในโครงการดังกล่าวรวมถึงการสนับสนุนโรงเรียนและด้านสาธารณสุข เช่นการดูแลมารดาฉุกเฉิน และการฉีดวัคซีนให้แก่เด็กๆ
อนึ่ง ตัวเลขจากรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า อเมริกาคือผู้บริจาคเงินช่วยเหลือต่างประเทศรายใหญ่ที่สุดในโลก โดยพวกเขาบริจาคเงินกว่า 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2.28 ล้านล้านบาท ในปี 2566 โดยอิสราเอลได้รับเงินช่วยเหลือทางทหารปีละ 3.3 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่อียิปต์ได้รับ 1.3 พันล้านดอลลาร์
ส่วนประเทศและดินแดนที่จะได้รับเงินสนับสนุนในลักษณะเดียวกันในปี 2568 ได้แก่ ยูเครน, จอร์เจีย, เอสโตเนีย, ลัตเวีย, ลิทัวเนีย, ไต้หวัน, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, ไทย, เวียดนาม, จิบูติ, โคลอมเบีย, ปานามา, เอกวาดอร์, อิสราเอล, อียิปต์, และ จอร์แดน ตามคำขอของรัฐบาลไบเดนที่ยื่นต่อสภาคองเกรส
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : the guardian