โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดำเนินการไล่ผู้ตรวจการอิสระของหน่วยงานรัฐบาลกลางนับสิบแห่งออกจากตำแหน่งแล้ว เพื่อเปิดทางสำหรับตั้งผู้ตรวจการอิสระของตัวเอง
เมื่อกลางดึกวันศุกร์ที่ 15 ม.ค. 2568 ตามเวลาท้องถิ่น ผู้ตรวจการของหน่วยงานรัฐบาลกลางได้รับอีเมลจากนาย เซอร์จิโอ กอร์ หัวหน้าสำนักงานบุคลากรประธานาธิบดีประจำทำเนียบขาว (PPO) แจ้งพวกเขาว่า การเปลี่ยนแปลงลำดับความสำคัญทำให้ตำแหน่งของพวกเขาสิ้นสุดลง มีผลบังคับใช้ในทันที
ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลกระทบต่อหน่วยงานรัฐบาลกลางเป็นวงกว้าง รวมถึงกระทรวงต่างประเทศ, พลังงาน, มหาดไทย, กลาโหม และคมนาคม
ทั้งนี้ ผู้ตรวจการอิสระมีหน้าที่ดำเนินการสืบสวนและตรวจสอบบัญชีของหน่วยงานหรือบุคคลของรัฐบาลที่อาจมีการทุจริต, ฉ้อโกง, ใช้ทรัพยากรสูญเปล่า หรือใช้อำนาจในทางที่ผิด เพื่อออกรายงานและหนังสือแนะนำเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาค้นพบ ซึ่งการทำงานของพวกเขาถูกออกแบบมาให้ดำเนินไปอย่างเป็นอิสระเพื่อความโปร่งใส
อย่างไรก็ตาม ตอนที่นายทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก (2560-2564) เขาก็ไล่ออกผู้ตรวจการอิสระที่เขามองว่าไม่ภักดีต่อตัวเขาเช่นกัน ซึ่งในปี 2566 สภาคองเกรสพยายามออกกฎหมายเพื่อคุ้มครองผู้ตรวจการอิสระ โดยกำหนดว่าทำเนียบขาวต้องชี้แจงเหตุผลเพียงพอหากต้องการปลดผู้ตรวจการคนใด
การไล่ออกรอบล่าสุดของนายทรัมป์ทำให้แม้แต่วุฒิสมาชิกฝั่งรีพับลิกันหลายคนยังออกมาแสดงความกังวล รวมถึงนาย ชัค แกรสลีย์ สว.รัฐไอโอวา ประธานคณะกรรมการตุลาการแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ ซึ่งออกมาระบุว่า สภาคองเกรสยังไม่ได้รับหนังสือแจ้งล่วงหน้า 30 วันจากทำเนียบขาวตามที่กำหนดไว้ในกฎหมายเลย
ขณะที่นาย จอห์น ทูน จากรัฐเซาท์ดาโกตา กล่าวว่า พวกเขาไม่ได้รับการแจ้งล่วงหน้าหรือคำอธิบายใดๆ สำหรับการตัดสินใจครั้งนี้ของทำเนียบขาวเลย
...
ด้านฝ่ายเดโมแครตต่างออกมาประณามการไล่ออกของโดนัลด์ ทรัมป์ นำโดยนาย ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา ซึ่งออกมาเตือนว่า การไล่ออกครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นยุคทองแห่งการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบและการคอร์รัปชันในรัฐบาล
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn