รัฐบาลเกาหลีใต้เผยว่า ประธานาธิบดียุน ซอก ยอล จะได้รับเงินประจำปีเพิ่มขึ้นอีก 3% แม้ว่าเขาจะถูกถอดถอนจากตำแหน่ง และถูกสั่งงดปฏิบัติหน้าที่ เนื่องจากการประกาศกฎอัยการศึกชั่วคราวก็ตาม

ตามรายงานของรัฐบาลเมื่อวันอาทิตย์ (12 ม.ค.) ประธานาธิบดียุน ซอก ยอล จะได้รับเงินประจำปีประมาณ 262.5 ล้านวอน หรือราว 6.2 ล้านบาทในปีนี้ หรือเฉลี่ยเดือนละราว 517,030 บาทก่อนหักภาษี ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากปีที่แล้ว และรายงานของกระทรวงการจัดการบุคลากร เงินเดือนของเจ้าหน้าที่สาธารณะของเกาหลีจะเพิ่มขึ้น 3% ในปีนี้จากปีที่แล้ว โดยเงินเดือนของประธานาธิบดีจะเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

ดังนั้นจึงเท่ากับว่านายยุน ซึ่งไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่มาตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว จะได้รับเงินเดือนประจำปีเพิ่มขึ้นประมาณ 7.5 ล้านวอน เมื่อเทียบกับตัวเลข 254.9 ล้านวอนของปีก่อน

โดยในช่วงหกเดือนข้างหน้า นายยุนจะได้รับเงินประมาณ 130 ล้านวอน หรือราว 3.07 ล้านบาท ระหว่างกระบวนการพิจารณาคดีถอดถอนที่ศาลรัฐธรรมนูญ แม้ว่าจะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ในฐานะประธานาธิบดีก็ตาม

ทั้งนี้ ตามมาตรา 38 ของพระราชบัญญัติศาลรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องมีการตัดสินภายใน 180 วันนับจากวันที่ได้รับคดี แม้ว่าจะไม่ใช่กำหนดเวลาที่มีผลผูกพันทางกฎหมายก็ตาม

ตั้งแต่ถูกถอดถอนในเดือนธันวาคม นายยุนได้ต่อต้านความพยายามในการสอบสวนและจับกุมเขาในข้อหาก่อกบฏและใช้อำนาจในทางมิชอบ ส่งผลให้ประเทศตกอยู่ในความวุ่นวายทางการเมืองมากขึ้น และแม้ถูกพักการปฏิบัติหน้าที่ แต่นายยุนก็ยังคงดำรงตำแหน่งต่อไปจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้จะตัดสินให้เขาพ้นจากตำแหน่ง

นายยุนอ้างถึงภัยคุกคามจาก "กองกำลังต่อต้านรัฐ" และเกาหลีเหนือ เพื่อเป็นเหตุผลในการประกาศกฎอัยการศึก อย่างไรก็ตาม ไม่นานก็ชัดเจนว่าการเคลื่อนไหวของเขาไม่ได้เกิดจากภัยคุกคามภายนอก แต่เกิดจากปัญหาทางการเมืองในประเทศ

...

ข่าวการขึ้นเงินเดือนของยุนทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในหมู่ชาวเกาหลีใต้ บางคนบอกว่าพวกเขาไม่เชื่อว่าเขาจะยังคงได้รับเงิน ในขณะที่เขาถูกพักงาน บางคนบนโซเชียลมีเดียชี้ให้เห็นว่าการขึ้นเงินเดือนของยุน 3% นั้นเกือบจะเป็นสองเท่าของการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างขั้นต่ำของประเทศ

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยอารักขาความปลอดภัยของนายยุน ได้ขัดขวางไม่ให้เจ้าหน้าที่สืบสวนเข้าจับกุมเขาที่บ้านพักประธานาธิบดี ความขัดแย้งดังกล่าวทำให้หมายจับเบื้องต้นหมดอายุลงในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 7 ม.ค. แต่ศาลกรุงโซลได้ขยายเวลาในเวลาต่อมา

เจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังเตรียมการสำหรับการพยายามจับกุมนายยุนอีกครั้ง และได้ขอความช่วยเหลือจากตำรวจ

เมื่อวันจันทร์ เจ้าหน้าที่กล่าวว่าความพยายามในการจับกุมนายยุน จะต้องหลีกเลี่ยง "การสูญเสียหรือการนองเลือด" นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังเตือนด้วยว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและสมาชิกรัฐสภาอาจถูกจับกุมได้หากขัดขวางการจับกุม

ทนายความของยุนกล่าวว่า การมอบหมายให้ตำรวจและเจ้าหน้าที่สอบสวนจับกุมประธานาธิบดี ถือเป็น "การทรยศต่อสาธารณชน" โดยอ้างว่าหมายจับนั้น "ผิดกฎหมาย" พวกเขายังเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ในทีมจับกุมไม่สวมหน้ากากเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ก่อจลาจลบุกเข้าไปในสถานที่ลับระดับชาติและปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ในกรุงโซล ประชาชนหลายพันคนเข้าร่วมการประท้วงทั้งเพื่อสนับสนุนและต่อต้านนายยุน ในฝั่งของผู้ต่อต้าน แสดงความต้องการให้ประธานาธิบดีถูกถอดถอนและจับกุม จากความพยายามใช้กฎอัยการศึก ส่วนฝ่ายผู้สนับสนุนมองว่าคำสั่งกฎอัยการศึกมีเหตุผลเพียงพอที่จะปกป้องประชาธิปไตยของเกาหลีใต้

ด้านฮัน ด๊อกซู ซึ่งดำรงตำแหน่งรักษาการประธานาธิบดีหลังจากนายยุนถูกถอดถอน และถูกรัฐสภาถอดถอนไปแล้ว จะได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นปีละ 3% เป็น 204 ล้านวอน ราว 4.82 ล้านบาท.

ที่มา The Korea Times

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign