มีการคาดหมายว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะได้รับเลือกเป็น "บุคคลแห่งปี" ของนิตยสารไทม์ ประจำปีนี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะถือเป็นครั้งที่สองของเขา

มีการคาดหมายว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะได้รับเลือกเป็น "บุคคลแห่งปี" ของนิตยสารไทม์ ประจำปีนี้ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะถือเป็นครั้งที่สองของเขา ทั้งนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เคยกล่าวว่านิตยสารไทม์ จะไม่มีวันประกาศชื่อเขาให้เป็นบุคคลแห่งปี และในตอนนี้ไทม์อาจประกาศยกย่องทรัมป์เป็นึรั้งที่สอง

แหล่งข่าวกล่าวกับซีเอ็นเอ็นว่า นิตยสารไทม์จะประกาศชื่อทรัมป์ในวันนี้ โดยยกย่องว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ คือบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีอิทธิพลสูงสุดต่อโลก "ไม่ว่าจะในแง่ดีหรือร้าย" เพื่อเฉลิมฉลองการขึ้นปกนิตยสาร ทรัมป์จะตีระฆังเปิดตลาดที่ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ขณะที่ทรัมป์เคยให้สัมภาษณ์กับนิตยสารไทม์เมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่ไทม์ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้

การที่ทรัมป์ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีอีกสมัย สะท้อนถึงการได้รับการยอมรับครั้งแรกของเขาในปี 2016 เมื่อนิตยสารไทม์ ประกาศชื่อเขาให้เป็นบุคคลแห่งปี หลังจากที่เขาก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างไม่คาดคิด ครั้งนี้ การประกาศชื่อครั้งนี้ถือเป็นการเปิดฉากการกลับมาอย่างน่าทึ่งอีกครั้ง ที่มีศักยภาพที่จะพลิกโฉมการเมืองอเมริกันยุคใหม่

แม้ว่านิตยสารไทม์จะมียอดจำหน่ายลดลง แต่การประกาศบุคคลแห่งปีของนิตยสารไทม์ ก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมประจำปี และได้กลายเป็นสิ่งที่ทรัมป์หมกมุ่นมาโดยตลอดหลายปี หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า โพบว่ามีการแขวนภาพปกนิตยสารไทม์ที่ประกาศชื่อเขาให้เป็นบุคคลแห่งปีในปี 2009 ที่สนามกอล์ฟหลายแห่งของเขา แม้ว่าจะไม่มีการตีพิมพ์ฉบับดังกล่าวเลยก็ตาม

...

ทรัมป์ยังเคยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการประกาศบุคคลแห่งผ่านบัญชีทวิตเตอร์ และแสดงความคิดเห็นว่าควรเป็นเขา เขาวิพากษ์วิจารณ์นิตยสารไทม์ในปี 2011 ที่เลือก "ผู้ประท้วง" เพื่อเป็นการยกย่องการปฏิวัติที่เกิดขึ้นทั่วโลกอาหรับ และขบวนการยึดครองอำนาจในสหรัฐฯ หนึ่งปีต่อมา ทรัมป์กล่าวว่านิตยสารไทม์ "สูญเสียความน่าเชื่อถือทั้งหมด" เนื่องจากไม่ได้จัดอันดับเขาให้เป็นหนึ่งใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดแห่งปี ทรัมป์ยังบ่นเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับตัวเลือกต่างๆ โดยเฉพาะเมื่อเทย์เลอร์ สวิฟต์ ได้รับเลือกในปี 2023 

นอกจากนั้นในปี 2015 เมื่อนิตยสารไทม์ ได้ประกาศให้นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีในขณะนั้น เป็นบุคคลแห่งปี เขาเขียนบนทวิตเตอร์ว่า "ผมบอกคุณแล้วว่านิตยสารไทม์ จะไม่มีวันเลือกผมให้เป็นบุคคลแห่งปี แม้ว่าจะเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากก็ตาม" ก่อนจะเสริมว่า "พวกเขาเลือกคนที่ทำลายเยอรมนี"

แม้ว่านิตยสารไทม์ จะประกาศให้ทรัมป์เป็นบุคคลแห่งปีในปี 2016 ซึ่งเขาถือว่า "เป็นเกียรติอย่างยิ่ง" บนโซเชียลมีเดีย แต่เขาก็ยังคงติดตามผลการประกาศอย่างใกล้ชิด ในปีถัดมา ทรัมป์อ้างว่าเขาอยู่ในกลุ่มผู้ได้รับเลือกอีกครั้ง แต่ไม่ยอมให้สัมภาษณ์และถ่ายรูป นิตยสารไทม์โต้แย้งข้ออ้างดังกล่าว

แม้ว่าทรัมป์จะวิพากษ์วิจารณ์สื่ออยู่เป็นประจำ แต่เขาก็ให้สิทธิ์การเข้าถึงแก่สื่อเก่าแก่อยู่เสมอ ซึ่งรวมถึงนิตยสารไทม์ เขาให้สัมภาษณ์กับนิตยสารไทม์ในเดือนเมษายนของปีนี้ที่โรงแรมของเขาในเมืองปาล์มบีช 

ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ตำแหน่งบุคคลแห่งปีถูกมอบให้กับบุคคลสำคัญต่างๆ ที่รวมถึง ผู้นำประเทศ นักเคลื่อนไหว ไปจนถึงผู้ประกอบการ  ผู้นำเผด็จการ โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทุกคน ตั้งแต่นายแฟรงคลิน ดี. โรสเวลต์ ยกเว้นนายเจอรัลด์ ฟอร์ด ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นบุคคลแห่งปีอย่างน้อยหนึ่งครั้ง ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนางคามาลา แฮร์ริส ได้รับเกียรติร่วมกันหลังจากที่เอาชนะทรัมป์ได้ในปี 2020.

ที่มา CNN

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign