กองกำลังกบฏในซีเรียเตรียมจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ หลังจากโค่นล้มรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

กองกำลังกบฏในซีเรียเตรียมจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ หลังการโค่นล้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แบบสายฟ้าแลบ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ชาวซีเรีย ประเทศต่างๆ ในภูมิภาค และมหาอำนาจโลก ต่างแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติจัดการประชุมเมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ (9 ธ.ค.) และนักการทูตกล่าวว่าพวกเขายังคงตกใจกับการโค่นล้มประธานาธิบดีอัสซาดที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในเวลา 12 วัน ภายหลังสงครามกลางเมืองที่กินเวลานาน 13 ปี ซึ่งส่งผลให้ซีเรียต้องหยุดชะงักนานหลายปี

รัสเซียมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนรัฐบาลของอัสซาดและช่วยต่อสู้กับกลุ่มกบฏ โดยผู้นำซีเรียหนีออกนอกประเทศไปยังรัสเซียมื่อวันอาทิตย์ ยุติการปกครองของตระกูลมานานกว่า 50 ปี

ขณะที่บรรยากาศในกรุงดามัสกัสยังคงเต็มไปด้วยความรื่นเริง นายกรัฐมนตรีโมฮัมเหม็ด จาลาลี ตกลงที่จะส่งมอบอำนาจให้แก่รัฐบาลกู้ชาติซีเรียที่นำโดยกลุ่มกบฏ ซึ่งเป็นรัฐบาลที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ที่กลุ่มกบฏยึดครองทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย

แหล่งข่าวที่ทราบเรื่องการหารือดังกล่าวเปิดเผยว่า นายอาห์เหม็ด อัล-ชารา ผู้นำกลุ่มกบฏหลัก หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ อาบู โมฮัมเหม็ด อัล-โกลานี ได้พบกับนายจาลาลี และรองประธานาธิบดีไฟซาล เมกดาด เพื่อหารือเกี่ยวกับรัฐบาลชั่วคราว นายจาลาลีกล่าวว่าการส่งมอบอำนาจอาจใช้เวลาหลายวันจึงจะเสร็จสิ้น ด้านสถานีโทรทัศน์อัลจาซีรา รายงานว่า รัฐบาลชั่วคราวจะอยู่ภายใต้การนำของโมฮัมเหม็ด อัล-บาชีร์ ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลกู้ชาติซีเรีย 

...

ทั้งนี้ การรุกคืบอย่างรวดเร็วของกลุ่มพันธมิตรกองกำลังติดอาวุธที่นำโดยฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) อดีตเครือข่ายอัลกออิดะห์ ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับภูมิภาคตะวันออกกลาง หลังสงครามกลางเมืองที่เริ่มขึ้นในปี 2011 คร่าชีวิตผู้คนไปหลายแสนคน ก่อให้เกิดวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของยุคปัจจุบัน ส่งผลให้เมืองต่างๆ ถูกระเบิดจนพังทลาย พื้นที่ชนบทไม่มีผู้คนอาศัย และเศรษฐกิจย่ำแย่ลงจากการคว่ำบาตรทั่วโลก

ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในวันจันทร์ ส่วนหนึ่งเกิดจากความกังวลว่าความไม่มั่นคงในซีเรีย ซึ่งไม่ใช่ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ อาจทำให้ความตึงเครียดในภูมิภาคทวีความรุนแรงขึ้น 

ด้านรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังหาทางที่จะร่วมมือกับกลุ่มกบฏซีเรียและกำลังติดต่อกับพันธมิตรในภูมิภาค เช่น ตุรกี เพื่อเริ่มการเจรจาทางการทูตอย่างไม่เป็นทางการ  เจ้าหน้าที่ที่ได้รับข้อมูลสรุปเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว กล่าวว่า นักการทูตกาตาร์ได้พูดคุยกับกลุ่มกบฏซีเรียเมื่อวันจันทร์ ขณะที่ประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเร่งเปิดการติดต่อกับกลุ่มกบฏซีเรีย

ทั้งนี้ สัญญาณเบื้องต้นว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้ง ธนาคารของซีเรียจะเปิดทำการอีกครั้งในวันอังคาร และกระทรวงน้ำมันได้เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่กลับไปทำงาน โดยเสริมว่าจะมีการให้การคุ้มครองเพื่อรับรองความปลอดภัยของพวกเขา

นอกจากนั้น ยังมีหนึ่งในความท้าทายที่ซีเรียต้องเผชิญ หลังอิสราเอลได้ยึดครองพื้นที่กันชนทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งถูกประณามจากอียิปต์ กาตาร์ และซาอุดีอาระเบีย ซาอุดีอาระเบียกล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำลายโอกาสของซีเรียในการฟื้นฟูความมั่นคง

อิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีทางอากาศจะดำเนินต่อไปเป็นเวลาหลายวัน แต่ได้แจ้งต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่าไม่ได้แทรกแซงความขัดแย้งของซีเรีย อิสราเอลกล่าวว่าได้ใช้ "มาตรการจำกัดและชั่วคราว" เพื่อปกป้องความมั่นคงเท่านั้น.

ที่มา Reuters

อ่านข่าวเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/news/foreign