ชายชาวจีนซึ่งโดนไล่ออกเพราะงีบหลับระหว่างทำงานช่วงดึก ชนะคดีที่เขาฟ้องร้องอดีตนายจ้าง ได้เงินชดเชยกว่า 350,000 หยวน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ชายชาวจีนแซ่ จาง ผู้ทำงานเป็นผู้จัดการแผนกของบริษัทผลิตสารเคมีแห่งหนึ่งในเมือง ไท่ซิง มณฑลเจียงซู ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน มานานกว่า 20 ปี ถูกไล่ออกเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา หลังกล้องวงจรปิดจับภาพได้ว่า เขางีบหลับบนโต๊ะ ในตอนเช้าหลังจากทำงานในออฟฟิศจนถึงเที่ยงคืน
2 สัปดาห์หลังเกิดเหตุ แผนกทรัพยากรบุคคลของบริษัทก็ยื่นรายงาน กล่าวหานายจางว่า “หลับขณะทำงานเนื่องจากความเหนื่อยล้า” ซึ่งนายจางยอมเซ็นรับทราบ
ขณะที่การสนทนาบนโลกออนไลน์ซึ่งได้รับการเปิดเผยในภายหลัง พบว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลถามนายจางว่า เขาหลับไปนานเท่าไร ซึ่งนายจางตอบว่า ประมาณ 1 ชั่วโมง
จากนั้น ทางบริษัทก็ออกหนังสือ แจ้งพ้นสภาพการเป็นพนักงานแก่นายจางอย่างเป็นทางการ อ้างว่า การงีบหลับในที่ทำงานของเขา เป็นการละเมิดนโยบายไม่อดทนต่อการกระทำผิดวินัยในที่ทำงานอย่างร้ายแรง และระบุด้วยว่า การหลับขณะทำงานจะไม่ถูกมองข้าม แม้นายจางจะมีประวัติการทำงานที่น่าชื่นชมมาตลอดหลายปีก็ตาม
แต่นายจางมองว่า การยกเลิกสัญญาจ้างงานในครั้งนี้นั้นไม่เป็นธรรม เขาจึงยื่นฟ้องร้องต่อศาล และในท้ายที่สุด ผู้พิพากษาก็ตัดสินให้นายจางชนะคดี โดยระบุว่า ถึงแม้นายจ้างจะมีสิทธิ์ไล่พนักงานที่ละเมิดกฎข้อบังคับออก แต่ก็ต้องมีความสมดุลระหว่างบทลงโทษกับความผิดด้วย
ผู้พิพากษาอธิบายอีกว่า การงีบหลับของนายจางเป็นการกระทำผิดครั้งแรก และไม่ได้สร้างความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญให้แก่บริษัท และนายจางก็มีประวัติการทำงานที่ดีมาตลอด 20 ปี ผู้พิพากษาจึงเห็นว่า การไล่เขาออกเป็นการตอบสนองที่เกินความจำเป็นและไม่สมเหตุสมผล และให้บริษัทจ่ายเงินชดเชยจำนวน 350,000 หยวน หรือราว 1.66 ล้านบาท
...
อนึ่ง คดีนี้ทำให้เกิดการถกเถียงเป็นวงกว้างบนโลกออนไลน์ของจีน โดยผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตหลายรายแสดงความประหลาดใจในจำนวนเงินชดเชยที่นายจางได้รับ ขณะที่บางคนระบุว่าแม้การนอนหลับขณะทำงานจะไม่ใช่สิ่งที่ดี แต่การถูกไล่ออกเพราะการกระทำผิดเล็กน้อยเช่นนี้ ดูจะรุนแรงเกินไป
ที่มา : the independent