เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024: คามาลา แฮร์ริส เร่งเดินสายหาเสียงกับชาวคริสต์และชาวอาหรับ ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ ปราศรัยเดือดในรัฐเพนซิลเวเนีย ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
คามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ปิดท้ายในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่โบสถ์เก่าแก่ของคนผิวดำ และต่อชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับ ในรัฐมิชิแกน ขณะที่โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ใช้วาทกรรมรุนแรงในการหาเสียงที่รัฐเพนซิลเวเนีย
ผลสำรวจความคิดเห็นแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่มีความสูสีอย่างมาก โดยรองประธานาธิบดีแฮร์ริส ได้รับการสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นผู้หญิง ขณะที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่เป็นชาวฮิสแปนิก โดยเฉพาะผู้ชาย
ผลสำรวจของ รอยเตอร์/อิปซอส ระบุว่าโดยรวมแล้ว ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่ได้ชื่นชอบผู้สมัครทั้งสองคน แต่ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาเปลี่ยนใจไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
จากการสำรวจของ Election Lab ของมหาวิทยาลัยฟลอริดา พบว่าชาวอเมริกันมากกว่า 78 ล้านคน ได้ใช้สิทธิเลือกตั้งไปแล้วก่อนวันเลือกตั้ง หรือเกือบครึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 160 ล้านคนในปี 2020 ซึ่งผู้มีสิทธิเลือกตั้งของสหรัฐฯ ออกมาใช้สิทธิมากที่สุดในรอบกว่าศตวรรษ โดยพรรครีพับลิกันเป็นเต็งหนึ่งที่จะได้เสียงข้างมากในวุฒิสภา ขณะที่พรรคเดโมแครตถูกมองว่ามีโอกาสเท่าเทียมกันที่จะพลิกกลับเสียงข้างมากที่พรรครีพับลิกันมีในสภาผู้แทนราษฎรได้ ประธานาธิบดีของพรรคการเมืองใดไม่สามารถควบคุมทั้งสองสภาได้ ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อผ่านกฎหมายสำคัญ
แฮร์ริสกล่าวกับบรรดาสมาชิกคริสตจักร Greater Emmanuel Institutional Church of God in Christ ในเมืองดีทรอยต์ว่า "ภายในเวลาเพียงสองวัน เราจะมีอำนาจตัดสินชะตากรรมของประเทศชาติของเราสำหรับคนรุ่นต่อๆ ไป เราต้องลงมือทำ การอธิษฐานอย่างเดียวไม่เพียงพอ และการพูดคุยอย่างเดียวไม่เพียงพอ"
...
ต่อมาในการชุมนุมที่เมืองอีสต์แลนซิง รัฐมิชิแกน เธอได้กล่าวปราศรัยต่อชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับ 200,000 คน โดยเริ่มต้นสุนทรพจน์ด้วยการพยักหน้าให้กับพลเรือนที่ตกเป็นเหยื่อของสงครามของอิสราเอลในฉนวนกาซาและเลบานอน "ปีนี้เป็นปีที่ยากลำบาก เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตและการทำลายล้างในฉนวนกาซาเป็นจำนวนมาก รวมถึงพลเรือนที่เสียชีวิตและต้องอพยพในเลบานอน นับเป็นปีแห่งความหายนะ และในฐานะประธานาธิบดี ฉันจะทำทุกวิถีทางเพื่อยุติสงครามในฉนวนกาซา" แฮร์ริสกล่าวท่ามกลางเสียงปรบมือ
ทั้งนี้ ชาวอเมริกันเชื้อสายอาหรับและมุสลิมจำนวนมาก รวมถึงกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านสงคราม ต่างประณามการสนับสนุนอิสราเอลของสหรัฐฯ ท่ามกลางการเสียชีวิตของพลเรือนหลายหมื่นคนในฉนวนกาซาและเลบานอน รวมถึงการอพยพของผู้คนอีกหลายล้านคน ขณะที่อิสราเอลระบุว่ากำลังโจมตีกลุ่มติดอาวุธฮามาสและฮิซบอลเลาะห์
ด้านทรัมป์เดินทางไปเยือนเมืองดีร์บอร์น รัฐมิชิแกน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของชุมชนอาหรับอเมริกัน และให้คำมั่นว่าจะยุติความขัดแย้งในตะวันออกกลาง โดยไม่ระบุว่าจะยุติอย่างไร
ในการหาเสียงครั้งแรกจากสามครั้งเมื่อวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) ทรัมป์กล่าวประณามการสำรวจความคิดเห็นที่แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวเพื่อแฮร์ริส เขาเรียกพรรคเดโมแครตว่าเป็น "พรรคปีศาจ" ล้อเลียนโจ ไบเดน ประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต และพูดถึงราคาแอปเปิลที่พุ่งสูง
ในการหาเสียงที่เมืองคิงส์ตัน รัฐนอร์ทแคโรไลนา และเมืองเมคอน รัฐจอร์เจีย ทรัมป์ได้กล่าวถึงรายงานการจ้างงาน ซึ่งระบุว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มีตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นเพียง 12,000 ตำแหน่งในเดือนที่แล้ว และกล่าวว่ารายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ เป็น "ประเทศที่ตกต่ำ" และเขาเตือนโดยไม่มีหลักฐานว่า อาจเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในปี 2472
เจ้าหน้าที่อาวุโสของแคมเปญหาเสียงของแฮร์ริสกล่าวว่า คำกล่าวปิดท้ายของแฮร์ริส มีเป้าหมายเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจเพียงไม่กี่กลุ่ม ขณะที่ ทรัมป์ กล่าวว่าแคมเปญของแฮร์ริสดำเนินไปด้วยความเกลียดชังและการดูหมิ่น
ทรัมป์กล่าวระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ของเขาว่า ผลการเลือกตั้งควรจะประกาศในคืนเลือกตั้ง แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะเตือนว่าในหลายรัฐอาจต้องใช้เวลาหลายวันในการสรุปผลขั้นสุดท้าย ด้านพรรคเดโมแครตกล่าวว่าพวกเขามีแผนรองรับในกรณีที่ทรัมป์พยายามอ้างชัยชนะก่อนกำหนดในครั้งนี้.
ที่มา Reuters
ติดตามข่าวเลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 https://www.thairath.co.th/uselection2024/home