จับตาการพิจารณาคดีทุจริตคอร์รัปชั่นครั้งใหญ่ที่สั่นสะเทือนเกาะสิงคโปร์

• นายเอส อิสวารัน วัย 62 ปี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสิงคโปร์ ผู้เป็นที่รู้จักกันดีจากการช่วยทำให้เกิด "Singapore GP" การแข่งขันรถ F1 กลางคืน ครั้งแรกของโลก สร้างรายได้เข้าประเทศมหาศาล แต่เขาถูกกล่าวหา 35 กระทงว่า รับของขวัญต่างๆ รวมทั้งตั๋วชม F1 และจักรยาน Brompton จากมหาเศรษฐี 2 ราย ขณะที่ข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะถูกห้ามไม่ให้รับของขวัญที่มีมูลค่าเกิน 50 ดอลลาร์สิงคโปร์ (38 ดอลลาร์) ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ 
• ศาลสิงคโปร์เตรียมเปิดการพิจารณาคดีนายอิสวารัน ในวันอังคาร 24 กันยายน ซึ่งเขาถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของสิงคโปร์คนแรกในรอบเกือบ 4 ทศวรรษที่ต้องเผชิญกับการสอบสวนเรื่องการทุจริต

ประเทศสิงคโปร์ ได้รับการจัดอันดับอย่างต่อเนื่องว่าเป็นประเทศที่มีการทุจริตน้อยที่สุดในโลก ในขณะที่พรรครัฐบาล กิจประชาชน (People's Action Party-PAP) มีนโยบายไม่ยอมรับการทุจริตคอร์รัปชันในทุกรูปแบบ โดยไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะได้ยินข่าวเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นของคนในรัฐบาลสิงคโปร์ 

ขณะที่ ตอนนี้ศาลสิงคโปร์กำลังจะเปิดพิจารณาคดีทุจริตที่โด่งดัง ของนายเอส อิสวารัน วัย 62 ปี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ในวันอังคารที่ 24 กันยายน ในข้อกล่าวหา 35 กระทง ได้แก่ ลักทรัพย์มีค่าในฐานะข้าราชการ ทุจริต และขัดขวางกระบวนการยุติธรรม ข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะถูกห้ามไม่ให้รับของขวัญที่มีมูลค่าเกิน 50 ดอลลาร์สิงคโปร์ ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่

เปิดข้อกล่าวหาคดีทุจริตสุดอื้อฉาว

นายอิสวารัน ถูกกล่าวหาว่ารับของกำนัลเป็นมูลค่ากว่า 400,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ หรือกว่า 10 ล้านบาท จากนักธุรกิจ 2 ราย ได้แก่ นายออง เบง เซง มหาเศรษฐีชาวมาเลเซีย ผู้มีบทบาทสำคัญในการช่วยผลักดันให้การจัดแข่งขัน F1 ประสบความสำเร็จ และนายลัม ก๊ก เซง ผู้มีสายสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับองค์กรภาคประชาชนในเขตเลือกตั้งเก่าของนายอิสวารัน 

ของขวัญมูลค่าสูงลิบ มีตั้งแต่ตั๋วชมละครเพลง West End ตั๋วเครื่องบิน วิสกี้ราคาแพงหลายขวด รวมไปถึงตั๋วชมการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และแม้แต่จักรยานแบบพับได้ของ Brompton ที่มีราคาแพงหลายหมื่นบาท อย่างไรก็ตาม มหาเศรษฐีทั้ง 2 รายไม่ถูกตั้งข้อกล่าวหาใดๆ

เพียง 1 วันก่อนที่จะมีการตั้งข้อหา นายอิสวารันได้เขียนจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ได้แก่ นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง ในวันที่ 17 มกราคม โดยบอกว่าเขาขอปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เขายังกล่าวเพิ่มเติมผ่านทนายความของเขาว่า ไม่ทราบว่าของขวัญจากชายสองคนที่เขามองว่าเป็นเพื่อนสนิท สามารถถือเป็น "การตอบแทนที่แอบแฝง" ได้

หลังจากนั้นไม่นาน เขาได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี และลาออกจากพรรค PAP ก่อนที่เขาจะถูกตั้งข้อหาอย่างเป็นทางการ

โดยข้อกล่าวหาส่วนใหญ่ที่นายอิสวารันต้องเผชิญ อยู่ภายใต้บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญา อันเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายอาญาของสิงคโปร์มาตั้งแต่ปี 1871 ซึ่งที่ผ่านมาถูกใช้ไม่บ่อยนัก ซึ่งบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญา คือห้ามข้าราชการต้องรับ หรือได้รับสิ่งของมีค่าจากบุคคลใดก็ตามที่เกี่ยวข้องด้วยในตำแหน่งหน้าที่ทางการด้วย 

ทีมกฎหมายของอิสวารันนำโดยดาวินเดอร์ ซิงห์ อดีตสมาชิกรัฐสภาพรรค PAP ซึ่งเป็นทนายความอาวุโสที่มักเป็นตัวแทนของนายลี รวมถึงนายลี กวน ยู ผู้ล่วงลับของเขาด้วย ในบรรดาพยานฝ่ายโจทก์ 56 คน รวมไปถึงภรรยาของนายอิสวารันด้วย ขณะที่การพิจารณาคดีส่วนแรกจะดำเนินต่อไปจนถึงวันที่ 27 กันยายน

ผลกระทบที่ตามมา

เนื่องจากเป็นข่าวช็อกของชาวสิงคโปร์ ในตอนนั้นนายกรัฐมนตรีลี ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า รัฐบาลได้ดำเนินการกับกรณีนี้ด้วยความเข้มงวดตามกฎหมาย และจะดำเนินการต่อไป โดยเขามุ่งมั่นที่จะรักษาความซื่อสัตย์สุจริตของพรรคและรัฐบาล ตลอดจนชื่อเสียงของประเทศ ในด้านความซื่อสัตย์สุจริตและการไม่ทุจริต เนื่องจากชาวสิงคโปร์ต่างคาดหวังไม่น้อยไปกว่านี้

สิงคโปร์เป็นประเทศที่ปกครองโดยพรรคการเมืองเดียว ผลสำรวจแสดงให้เห็นอย่างต่อเนื่องว่าประชาชนมีความไว้วางใจในรัฐบาลในระดับสูง แต่เรื่องราวของนายอิสวารันเกิดขึ้นหลายเดือนหลังจากนายตัน ชวน จิน อดีตประธานรัฐสภา ซึ่งเคยถูกคาดเดาว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีในอนาคต ลาออกในเดือนกรกฎาคม 2023 หลังจากยอมรับว่ามีสัมพันธ์นอกสมรสกับสมาชิกรัฐสภาด้วยกัน นอกจากนี้เขายังลาออกจากตำแหน่งด้วย

การพิจารณาคดีนายอิสวารันมีขึ้นเกือบ 5 เดือนหลังจากที่นายลอว์เรนซ์ หว่อง ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ และกำลังใกล้จะมีการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนพฤศจิกายน 2568

ไมเคิล บาร์ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จากมหาวิทยาลัยฟลินเดอร์ส ในเมืองแอดิเลด ประเทศออสเตรเลีย กล่าวว่า การพิจารณาคดีของนายอิสวารัน น่าจะเป็นเรื่องคาใจนายกรัฐมนตรีหว่องอย่างมาก ในตอนที่เขากำหนดวันเลือกตั้ง โดยเชื่อว่ารัฐบาลต้องอยากให้มีการพิจารณาคดีโดยเร็ว หรือไม่ก็ล่าช้าออกไป เพื่อที่จะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อผลการเลือกตั้ง

ทางด้านเฟลิกซ์ แทน นักสังเกตการณ์การเมืองอิสระ มองว่าคดีนี้เป็นเพียง จุดเล็กๆน้อยๆในประวัติศาสตร์การบริหารประเทศที่ดีตลอดมาของสิงคโปร์ แต่เขาก็เตือนว่าพรรครัฐบาลก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เนื่องจากความท้าทายหลักของรัฐบาลพรรค PAP อยู่ที่การรักษาความไว้วางใจของสาธารณชน และอาจมีข้อมูลละเอียดอ่อนในคดีของนายอิสวารันถูกเปิดเผยระหว่างกระบวนการพิจารณาคดี

ความคิดเห็นของชาวสิงคโปร์

คดีของนายอิสวารัน นับเป็นการสอบสวนการทุจริตเกี่ยวข้องกับรัฐมนตรี เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2529 หรือในยรอบ 38 ปีนับจาก นายเตห์ เชียง วัน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาแห่งชาติ ถูกกล่าวหาว่ารับสินบนเป็นเงิน 1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ แต่นายเตห์ตัดสินใจจบชีวิตตัวเองก่อนที่การสอบสวนจะเสร็จสิ้น

ตอนที่มีข่าวการยื่นฟ้องนายอิสวารัน ชาวสิงคโปร์ต่างพากันช็อก ในขณะที่เขาถูกจับกุมตัวชั่วคราว ในฐานะส่วนหนึ่งของการสืบสวนที่ดำเนินการโดย สำนักงานสอบสวนการปฏิบัติทุจริต (Corrupt Practices Investigation Bureau -CPIB) ซึ่งตามรายงานของสำนักงานสอบสวนการปฏิบัติทุจริต  เช่นเดียวกับองค์กร Transparency International การทุจริตคอร์รัปชันหมายถึง การรับ การเรียกร้อง หรือการให้สิ่งตอบแทนใดๆ เพื่อจูงใจให้บุคคลทำคุณประโยชน์ให้แก่ผู้อื่นโดยมีเจตนาทุจริต

นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่าคดีนี้ ไม่ได้อยู่ในความสนใจของประชาชนมาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว โดยพบว่าชาวสิงคโปร์หันไปสนใจข่าวอื่นที่เกี่ยวกับชีวิตของพวกเขาโดยตรง อาทิ ข่าวเศรษฐกิจ ธุรกิจ และปัญหาค่าครองชีพ ขณะที่ความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อพรรค PAP ยังคงเป็นไปในเชิงบวกเป็นส่วนใหญ่

โดยการสำรวจที่จัดทำขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วโดยบริษัทวิจัยตลาด Blackbox หลังจากที่นายกรัฐมนตรีหว่องได้กล่าวสุนทรพจน์รับตำแหน่ง แสดงให้เห็นว่าพรรค PAP ยังคงได้รับคะแนนเชิงบวกจากผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งหนึ่ง ผลสำรวจยังชี้ว่า พรรค PAP ยังอยู่ในตำแหน่งที่ดี 

นอกจากนี้ บรรดานักวิเคราะห์เชื่อว่า การพิจารณาคดีของนายอิสวารัน ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อนายกรัฐมนตรีหว่อง เนื่องจากประชาชนอาจมองว่า การพิจารณาคดีนี้ถือเป็นเศษเสี้ยวความผิดพลาดที่มาจากของรัฐบาลก่อน นอกจากนี้ ผลสำรวจ ยังพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามมากกว่าครึ่งหนึ่งให้คะแนนการทำงานของนายกรัฐมนตรีคนใหม่จนถึงขณะนี้ว่า "ดี" ในขณะที่ 17 เปอร์เซ็นต์ให้คะแนนว่า "ยอดเยี่ยม"

นักวิเคราะห์มองว่า พวกเขาไม่คาดว่าคดีนี้จะมีผลกระทบมากนักต่อการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของลอว์เรนซ์ หว่อง  แม้อาจจะมีผลกระทบตามมาบ้าง เช่น การเป็นคดีที่สะท้อนถึงผู้นำรุ่นใหม่ และความล้มเหลวของรัฐบาล.