ผอ. FBI เผย มือปืนผู้ก่อเหตุยิงโดนัลด์ ทรัมป์ ค้นหาข้อมูลเหตุลอบสังหาร อดีต ปธน.จอห์น เอฟ. เคนเนดี และนำโดรนบินสำรวจพื้นที่ก่อนก่อเหตุ 2 ชั่วโมง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันพุธที่ 24 ก.ค. 2567 นายคริสโตเฟอร์ เวรย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI เข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการตุลาการแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เพื่อเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสืบสวนกรณีความพยายามลอบสังหาร โดนัลด์ ทรัมป์ ที่งานหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ เมื่อ 13 ก.ค.
นายเวรย์บอกกับเหล่า สส.ว่า ผลการวิเคราะห์แล็ปท็อปของ นายโทมัส แมทธิว ครูกส์ คนร้ายผู้ก่อเหตุ FBI พบว่า ในวันที่ 6 ก.ค. 2567 ชายคนนี้ค้นหาข้อมูลทางกูเกิลว่า นายลี ฮาร์วีย์ ออสวาลด์ อยู่ห่างจากอดีตประธานาธิบดี จอห์น เอฟ. เคนเนดี มากแค่ไหน ในตอนที่เขาลงมือลอบสังหารเมื่อปี 2506
“การค้นหานั้นชัดเจนอย่างมีนัยสำคัญว่าในแง่ของสภาพจิตใจของเขา” ผบ.FBI กล่าว “และดูเหมือนว่านั่นจะเป็นวันเดียวกับที่เขาลงทะเบียนเข้าร่วมชมการหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์”
FBI พบอีกว่า ในเวลาประมาณ 16.00 น. นายครูกส์นำโดรนขึ้นบินไปรอบๆ พื้นที่ ห่างจากเวทีหาเสียงราว 200 หลา (ราว 182 ม.) โดยโดรนบินอยู่นานประมาณ 11 นาที ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบสวนเชื่อว่า นายครูกส์ดูภาพที่ถ่ายทอดสดจากโดรนมาสู่โทรศัพท์ของเขา และโดรนลำนี้ถูกพบในรถของครูกส์หลังเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่สืบสวนยังใช้วิธีวิศวกรรมย้อนรอย (reverse-engineer) ตรวจสอบเส้นทางการบินของโดรนในวันที่เกิดเหตุ และเชื่อว่าภาพจากโดรนทำให้นายครูกส์เห็นว่าจะมีอะไรอยู่ข้างหลังเขาบ้าง เหมือนกับมีกระจกมองหลัง
นอกจากนั้น นายครูกส์ยังมีวัตถุระเบิด 2 ชั้นอยู่ภายในรถของเขา ณ เวลาเกิดเหตุ และอีก 1 ชิ้นที่บ้านของเขา แต่เขาไม่น่ามีความสามารถในการจุดระเบิดอุปกรณ์เหล่านี้จากบนหลังคาที่เขาถูกสังหาร
...
ขณะนี้ FBI กำลังสืบสวนคดีนี้ทั้งในฐานะคดีพยายามลอบสังหาร และมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นการก่อการร้ายภายในประเทศ แต่เจ้าหน้าที่เชื่อว่า นายครูกส์ก่อเหตุเพียงคนเดียว ส่วน ผอ.เวรย์ ย้ำว่า พวกเขาไม่มีหลักฐานว่านายครูกส์มีผู้ร่วมมือ
ในด้านอาวุธปืน นายเวรย์เปิดเผยว่า นายครูกส์ยิงปืนไรเฟิลประเภท AR ของเขาไปที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ประมาณ 8 นัด ก่อนที่เขาจะถูกพลต่อต้านสไนเปอร์ของหน่วยตำรวจลับสังหาร
ผลการสืบสวนยังพบด้วยว่า ปืนกระบอกดังกล่าวเป็นของนายครูกส์ ที่ซื้อต่อมาจากพ่อของเขาอีกทีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากก่อนหน้านี้ เชื่อกันว่าปืนที่นายครูกส์ใช้เป็นของพ่อของเขา และปืนกระบอกนี้มีพานท้ายปืนแบบพับได้ด้วย
ส่วนในประเด็นที่นายครูกส์ขึ้นไปบนหลังคาได้อย่างไร FBI เชื่อว่าเขาใช้อุปกรณ์บนภาคพื้นและท่อแนวตั้งที่ติดอยู่กับอาคาร ในการปีนขึ้นไปบนหลังคา ไม่ได้ใช้บันไดสูง 5 ฟุต ที่มีการยืนยันก่อนหน้านี้ว่าเขาสื่อก่อนก่อเหตุแต่อย่างใด
ผอ.FBI ยังชี้แจงเกี่ยวกับรายงานข่าวที่ว่า นายครูกส์ค้นหาภาพของเจ้าหน้าที่รัฐคนสำคัญบางคน โดยนายเวรย์เชื่อว่ามือปืนรายนี้ค้นหาข่าวและบทความต่างๆ ซึ่งมีรูปบุคคลปรากฏอยู่มากกว่า ไม่ได้ค้นหาเจาะจงไปที่ตัวบุคคล อย่างไรก็ตาม นายเวรย์ตอบอย่างระมัดระวังและเตือนว่า “มันชัดเจนว่านี่เป็นช่วงเวลาอันตรายของการเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มีชื่อเสียง”
เมื่อถูก สส.ชิป รอย จากพรรครีพับลิกันถามว่า มีเจ้าหน้าที่ FBI คนใดส่งข้อความ, อีเมล หรือแสดงความผิดหวังที่นายทรัมป์รอดจากการลอบสังหาร หรือแสดงความเห็นเกี่ยวกับความพยายามลอบสังหารครั้งนี้หรือไม่ นายเวรย์ตอบว่า เท่าที่เขารู้ ไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดประพฤติตัวไม่เหมาะสม แต่มี 1 คนที่โพสต์บางอย่าง ซึ่งเขาถือว่าไม่อาจยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง
แต่นายเวรย์ไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อความดังกล่าว แต่ระบุว่า คนผู้นี้กำลังถูกสืบสวนเป็นการภายใน
ผอ.FBI บอกอีกว่า พวกเขาได้แจ้งต่อหน่วยตำรวจลับแห่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับแผนการของอิหร่านที่จะลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แล้ว และมีความเป็นไปได้ที่หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายต่างๆ จะต้องเผชิญกับ “ความไร้ยางอาย” จากอิหร่านมากขึ้นในอนาคต
นายเวรย์ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดของข้อมูลที่เป็นความลับต่อคณะกรรมาธิการ แต่ย้ำว่า FBI เตือนมาตลอดเรื่องความพยายามของรัฐบาลอิหร่านที่ต้องการแก้แค้นกรณีที่สหรัฐฯ สังหารนายพลโซเลมานี ด้วยการมุ่งเป้าหมายไปที่เจ้าหน้าที่คนสำคัญของสหรัฐฯ ทั้งในอดีตและปัจจุบัน
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : cnn