กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยิงจรวดและมิสไซล์กว่า 100 ลูก เข้าใส่อิสราเอล หลังผู้บัญชาการอาวุโสของพวกเขาถูกสังหารในการโจมตีทางอากาศเป็นรายที่ 2 ในรอบ 1 เดือน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนเปิดเผยในวันพุธที่ 3 ก.ค. 2567 ว่า นายโมฮัมเหม็ด นีมาห์ นาสเซอร์ ผู้บัญชาการอาวุโสของพวกเขา ถูกสังหารในการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในพื้นที่ทางตอนใต้ของเลบานอน
นายนาสเซอร์เป็นผู้บัญชาการอาวุโสรายล่าสุดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ที่ถูกอิสราเอลสังหาร ระหว่างการปะทะกันข้ามพรมแดนตลอดเกือบ 9 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่า สถานการณ์อาจบานปลายกลายเป็นการทำสงครามเต็มรูปแบบ
ฮิซบอลเลาะห์ระบุว่า พวกเขาตอบโต้การลอบสังหารในครั้งนี้ด้วยการยิงจรวดและขีปนาวุธรวมกว่า 100 ลูก เข้าใส่ฐานที่มั่นของกองทัพอิสราเอล อย่างไรก็ตาม ฝ่ายอิสราเอลไม่ได้รายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด
ด้านกองทัพอิสราเอลอ้างว่า นายนาสเซอร์เป็นผู้บัญชาการหน่วยที่รับผิดชอบเรื่องการยิงจรวดจากพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเลบานอน และเป็นผู้นำการโจมตีก่อการร้ายขนาดใหญ่หลายครั้ง
อิสราเอลอธิบายอีกว่า นายนาสเซอร์มีตำแหน่งเทียบเท่ากับนายตาเลบ ซามี อับดุลเลาะห์ ผู้บัญชาการของฮิซบอลเลาะห์อีกคนซึ่งถูกสังหารไปเมื่อเดือนก่อน จนทำให้ฮิซบอลเลาะห์เปิดฉากตอบโต้ด้วยการยิงจรวดและมิสไซล์เข้าใส่ภาคเหนือของอิสราเอลมากกว่า 200 ลูกในวันเดียว
การโจมตีดังกล่าวทำให้ความกังวลว่าการปะทะกันระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์จะปะทุกลายเป็นสงครามเพิ่มสูงขึ้นไปอีก จนหลายฝ่ายพยายามใช้วิธีทางการทูตเพื่อลดระดับความตึงเครียด โดยสหรัฐฯ และสหประชาชาติออกโรงเตือนถึงหายนะที่จะตามมาหากเกิดสงคราม ซึ่งอาจดึงอิหร่านและกลุ่มพันธมิตรอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
...
ทั้งนี้ อิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ยิงอาวุธข้ามพรมแดนตอบโต้กันแทบจะรายวัน นับตั้งแต่อิสราเอลเปิดฉากทำสงครามกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาเมื่อ 7 ต.ค. 2566 โดยฮิซบอลเลาะห์อ้างว่า พวกเขาลงมือเพื่อสนับสนุนกลุ่มฮามาส ซึ่งได้รับการหนุนหลังจากอิหร่านเช่นเดียวกัน
จนถึงตอนนี้ การโจมตีข้ามพรมแดน ทำให้มีผู้เสียชีวิตในฝ่ายเลบานอนแล้วมากกว่า 400 ศพ ส่วนใหญ่เป็นนักรบกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ขณะที่ฝ่ายอิสราเอลเสียชีวิต 25 ศพ ส่วนใหญ่เป็นทหาร ขณะที่ชาวบ้านหลายหมื่นคนในชุมชนของทั้ง 2 ฝ่าย ต้องอพยพหนีความรุนแรงกลายเป็นผู้พลัดถิ่น
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc