เผยคลิปกล้องวงจรปิดในโรงงานผลิตแบตเตอรี่เกาหลีใต้ แบตเตอรี่ระเบิดก่อนที่ไฟจะไหม้ลามภายในเวลาสั้นๆ คร่าชีวิตคนงาน 23 ศพ บาดเจ็บ 8 ราย กลายเป็นโศกนาฏกรรมโรงงานเคมีครั้งร้ายแรงที่สุดของประเทศ

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2567 สำนักงานดับเพลิงแห่งชาติของเกาหลีใต้ เผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดภายในโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมของบริษัท อาริเซลล์ (Aricell) ซึ่งเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ในเมืองฮวาซอง ทางใต้ของกรุงโซล ซึ่งแสดงให้เห็นช่วงเวลาที่เกิดเหตุการณ์ระทึก ขณะที่แบตเตอรี่เกิดการระเบิดก่อนที่เปลวไฟจะลุกไหม้โรงงาน

ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่าแบตเตอรี่เกิดการระเบิด โดยคนงานสังเกตเห็นการระเบิดมีควันออกมาครั้งแรกเมื่อเวลา 10.30.03 น. ตามมาด้วยการระเบิดครั้งที่สองตามมาในเวลา 10.30.28 น. และระเบิดครั้งที่ 3 เกิดขึ้นใน 3 วินาทีต่อมา จากนั้นเปลวไฟและกลุ่มควันหนาทึบก็เริ่มปกคลุม โดยในเวลา 10.30.32 น. คนงานได้พยายามไปหยิบถังดับเพลิงมาดับไฟตามขั้นตอน แต่ปรากฏได้ปกคลุมทั่วพื้นที่จนกล้องไม่สามารถจับภาพอะไรได้ตั้งแต่ช่วงเวลา 10.30.45 น.

เว็บไซต์ข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ รายงานว่า ผู้เสียชีวิต 23 ศพ ถูกพบบนชั้น 2 ของโรงงาน ซึ่งเป็นจุดที่เกิดการระเบิดของแบตเตอรี่ ในจำนวนนี้ 17 ศพเป็นชาวจีน ขณะที่ 5 ศพเป็นชาวเกาหลีใต้ และ 1 ศพเป็นชาวลาว และนอกจากนี้พบผู้บาดเจ็บ 8 ราย ส่วนใหญ่เป็นคนงานชาวต่างชาติ ในจำนวนผู้บาดเจ็บมีอยู่ 2 รายอาการสาหัส โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยประมาณ 100 คน พร้อมสุนัขกู้ภัยยังคงระดมกำลังเพื่อค้นหาคนงานที่สูญหาย

...

ส่วนสาเหตุที่แท้จริงของการระเบิดครั้งแรกยังคงไม่ทราบแน่ชัด เจ้าหน้าที่ของโรงงานระบุว่า แบตเตอรี่ทรงกระบอกก้อนแรกเกิดการระเบิดโดยยังไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วและส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

ทางด้านตำรวจตั้งข้อหาเจ้าของโรงงานและผู้เกี่ยวข้องอีก 4 คน เพื่อสอบสวนข้อกล่าวหาที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงความประมาทเลินเล่อทางวิชาชีพที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

ทั้งนี้ เหตุเพลิงไหม้มาจากบริเวณพื้นที่จัดเก็บและบรรจุภัณฑ์สำหรับแบตเตอรี่ลิเทียมที่จัดหาให้กับกองทัพเพื่อใช้ในเครื่องส่งรับวิทยุ FM โดยลิเทียมถือเป็นวัสดุที่ไม่ต้องมีกฎระเบียบทางกฎหมายเฉพาะสำหรับการจัดการในเกาหลีใต้ แม้ว่าจะสามารถทำให้เกิดประกายไฟได้หากสัมผัสกับเหล็กที่เป็นสนิมและมีก๊าซไวไฟอยู่ในอากาศ แต่ระบุให้มีความจำเป็นที่จะต้องจัดเก็บในพื้นที่แห้งแยกต่างหาก.