- ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯกำลังดุเดือด และสัปดาห์นี้จะมีการดีเบตตัวต่อตัวระหว่าง "ไบเดน-ทรัมป์" สองผู้สมัครจากพรรคใหญ่ ซึ่งจะเป็นการมาเผชิญหน้าปะทะคารมนโยบายกัน นับตั้งแต่ทั้งสองคนเคยพบกันมาแล้วเมื่อ 4 ปีก่อน
- การดีเบตประชันนโยบายของสองผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นการดีเบตถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ที่จัดขึ้นเร็วที่สุด นับตั้งแต่ปี 1960 นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1980
- สองผู้สมัครต่างซุ่มเตรียมตัวดีเบตตามสไตล์ของตัวเอง โดยประธานาธิบดีไบเดน วัย 81 ปี กำลังใช้เวลาเตรียมตัวกับที่ปรึกษาคนใกล้ชิดที่แคมป์เดวิด ส่วนอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เดินสายอภิปรายเชิงนโยบายหารือกับภาคส่วนต่างๆเกี่ยวกับเรื่องนโยบาย
นับถอยหลังศึกประชันฝีปากช่วงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้แทนพรรคเดโมแครตกับอดีตประธานธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้แทนพรรครีพับลิกัน ที่กำลังจะมาถึงในวันที่ 27 มิ.ย. ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐฯ ก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน ขณะที่การดีเบตตัวต่อตัวครั้งแรก จากจำนวนทั้งหมดอย่างน้อย 2 ครั้ง จะจัดขึ้นโดยสำนักข่าว CNN เริ่มต้นเวลา 21.00 น. ตามเวลาที่สหรัฐฯ หรือตรงกับ 08.00 น.ของเช้าวันรุ่งขึ้น ตามเวลาในไทย โดยการดีเบตครั้งนี้จะถ่ายทอดสดทาง CNN จากห้องส่งในเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย
...
กฎกติกาเป็นอย่างไร
การดีเบตครั้งแรกจะดำเนินรายการโดยพิธีกรมากประสบการณ์ของ CNN อย่างเจค แทปเปอร์และดานา แบช ซึ่งการดีเบตจะใช้เวลา 90 นาที ในช่วงเวลานี้จะมีการพักโฆษณา 2 ครั้ง เจ้าหน้าที่แคมเปญของผู้สมัครทั้งสองคนได้ทำการโยนเหรียญหัวก้อยเพื่อกำหนดตำแหน่งโพเดียม และลำดับการกล่าวปิดท้ายของพวกเขา โดยทีมงานของประธานาธิบดีไบเดน เลือกก้อยและประธานาธิบดีก็เลือกที่จะปรากฏตัวที่โพเดียมทางด้านขวามือของหน้าจอ โดยมีทรัมป์อยู่ทางฝั่งซ้าย
ขณะที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เลือกให้นายไบเดนกล่าวปิดท้ายก่อน และตัวเขาเองจะได้เป็นผู้พูดสรุปปิดดีเบตคนสุดท้าย โดยผู้สมัครทั้งสองจะยืนอภิปรายที่โพเดียม ทีมหาเสียงของไบเดนระบุว่า ก่อนหน้านี้มีรายงานข่าวคลาดเคลื่อนว่านายไบเดนจะขอที่นั่งระหว่างการอภิปราย ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
นอกจากนี้ทีมหาเสียงของทั้งสองฝ่ายจะไม่ได้รับอนุญาตให้โต้ตอบกับผู้สมัครคนใดคนหนึ่งตลอดการดีเบต รวมถึงในช่วงพักแต่ละครั้งด้วย
สองผู้สมัครจะได้รับปากกา แผ่นกระดาษโน้ต และขวดน้ำ แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้มีอุปกรณ์ประกอบข้อมูลการดีเบตหรือโน้ตที่เขียนไว้ล่วงหน้าบนเวที
ต่างจากการดีเบตครั้งก่อน ขณะเดียวกันทั้งสองคนจะถูกปิดเสียงไมโครโฟน ยกเว้นเมื่อถึงคราวที่ต้องพูด การดีเบตครั้งนี้จะไม่มีผู้ชมในสตูดิโอ และ CNN ต้องการให้แน่ใจว่าการดีเบตจะดำเนินไปอย่างราบรื่น
เบื้องหลังการจัดดีเบต
การประชันนโยบายของสองผู้สมัครของตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นการดีเบตถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ที่จัดขึ้นเร็วที่สุด นับตั้งแต่ปี 1960 นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1980 ที่ไม่ได้จัดขึ้นโดยเจ้าภาพดั้งเดิม ซึ่งก็คือคณะกรรมาธิการสองพรรคว่าด้วยการดีเบตประธานาธิบดี (Commission on Presidential Debates-CPD) สาเหตุก็เพราะเมื่อ 4 ปีก่อน การดีเบต "ไบเดน-ทรัมป์" เมื่อปี 2020 จบลงแบบไม่สวยงามเท่าไร และก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดในกลุ่มคนดูของทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจล่าสุดชี้ว่าคนอเมริกันส่วนใหญ่ไม่ตื่นเต้นกับการดีเบตนัดแรกที่กำลังจะมาถึง ระหว่างผู้สมัครวัย 81 ปีและคู่แข่งวัย 78 ปี ซึ่งอาจทำให้ผู้ชมเกิดการเบื่อหน่าย ขณะที่ผู้สมัครก็พยายามหลีกเลี่ยงการดีเบตโดยบอกว่าไม่อยากมาถกเถียงกัน จากนั้นในเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมานายไบเดนก็เป็นฝ่ายพูดถึงการดีเบตกับทรัมป์
ขณะเดียวกัน ทีมหาเสียงของไบเดนได้พยายามร้องเรียนหลายครั้งเกี่ยวกับวิธีที่ CPD จัดการดีเบตเมื่อ 4 ปีก่อน โดยวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นแนวทางที่ล้าสมัย และไม่ได้ทำให้เกิด "ปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่" หรือ "การอภิปรายโต้แย้งที่ดี" นอกจากนี้ยังโจมตีว่าการดีเบตที่จัดโดย CPD เมื่อ 4 ปีก่อนเกิดขึ้นช้าเกินไป เมื่อประชาชนในบางรัฐได้ออกไปลงคะแนนล่วงหน้าแล้ว ต่อมาทรัมป์ตกลงที่จะร่วมดีเบตกับไบเดน 2 ครั้ง ซึ่งก็คือ งานของ CNN ในสัปดาห์นี้ และการครั้งที่สองในเดือนกันยายน ทางช่อง ABC News พร้อมเรียกร้องให้มีการจัดดีเบตเพิ่มเติมกับผู้ชม แต่ไบเดนคู่แข่งของเขาได้ปฏิเสธข้อเสนอนี้แล้ว
...
ผู้สมัครอิสระขาดคุณสมบัติร่วมดีเบต
กรอบเวลาสำหรับการพิจารณาผู้ร่วมดีเบตปิดลงตอน 1 นาทีหลังเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดี ที่แล้ว ซึ่งทาง CNN ระบุว่ามีเพียงนายไบเดนและทรัมป์เท่านั้นที่มีคุณสมบัติครบตามข้อกำหนดทั้งหมด ซึ่งระบุว่า ผู้เข้าร่วมดีเบตจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดรัฐธรรมนูญเพื่อดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ยื่นคำแถลงอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐบาลกลาง และได้รับอย่างน้อย 15% ในการสำรวจโพลเลือกตั้งระดับประเทศ 4 ครั้งที่ตรงตามมาตรฐานของ CNN และปรากฏในบัตรลงคะแนนของรัฐมากพอที่จะผ่านเกณฑ์คะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง 270 เสียงที่จำเป็นจึงจะได้ตำแหน่งประธานาธิบดี
ตามรายงานของ CNN ระบุว่านายโรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี้ จูเนียร์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอิสระ ไม่ผ่านคุณสมบัติตามข้อกำหนด 2 ข้อเนื่องจากปัจจุบันเขาปรากฏในบัตรลงคะแนนของรัฐเพียง 6 ใบ จึงสามารถรวบรวมคะแนนเสียงจากคณะผู้เลือกตั้งได้เพียง 89 เสียงเท่านั้น
สำหรับกรณีนี้นายเคนเนดี กล่าวหาว่าทีมหาเสียงของไบเดนและทรัมป์ สมรู้ร่วมคิดกับซีเอ็นเอ็นเพื่อกีดกันเขา ประณามการตัดสินใจดังกล่าวว่า "ไม่เป็นประชาธิปไตย ไม่เป็นชาวอเมริกัน และขี้ขลาดตาขาว อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่าจะเดินหน้ารณรงค์หาเสียงต่อ โดยขู่ว่าจะดึงคะแนนเสียงจำนวนมากจากผู้สมัครพรรคใหญ่สองคนที่ไม่เป็นที่นิยม
...
การเตรียมตัวของสองผู้สมัคร
การเตรียมการดีเบตได้เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังสำหรับไบเดน และทรัมป์ แต่วิธีการเตรียมตัวของสองฝ่ายดูแตกต่างกันอย่างมาก มีรายงานข่าวว่าประธานาธิบดีไบเดนจะยังไม่กลับไปทำงานที่ทำเนียบขาวจนกว่าจะดีเบตเสร็จสิ้น และเขากำลังอยู่รวมตัวกับที่ปรึกษาคนใกล้ชิดที่แคมป์เดวิด ซึ่งเป็นสถานที่พักผ่อนของประธานาธิบดีในแถบชนบทบนภูเขาอันเงียบสงบของรัฐแมรีแลนด์ โดยไบเดนกำลังเตรียมตัวร่วมกับนายรอน แคลน อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ซึ่งเตรียมพร้อมสำหรับการกล่าวสุนทรพจน์ State of the Union ในเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นอกจากนี้มีรายงานว่า นายบ็อบ บาวเออร์ ที่ปรึกษาทำเนียบขาวภายใต้อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังสวมบทบาทของทรัมป์ในการอภิปรายจำลองกับนายไบเดน
ในช่วงเตรียมการ มีรายงานว่าพรรคเดโมแครตกำลังพิจารณาแฟ้มคำถามและคำตอบโดยพยายามวางกรอบการเลือกตั้งว่าเป็นทางเลือกระหว่างสองฝ่ายตรงข้าม เจ้าหน้าที่รณรงค์หาเสียงเน้นย้ำว่าเขาจะยังคงใช้แนวทางเจาะลึกต่อคู่แข่งจากพรรครีพับลิกันต่อไป และถือว่าทรัมป์จะต้องรับผิดชอบต่อประวัติทางการเมืองของเขาเอง
ทีมงานของไบเดนเปิดเผยเป็นนัยเมื่อวันอาทิตย์ ที่ผ่านมาว่า หนึ่งในกลยุทธ์ในการดีเบตของไบเดนคือการโจมตีคู่แข่งของพรรครีพับลิกันเกี่ยวกับปัญหาคดีความทางกฎหมายและอุปนิสัยของทรัมป์
ในขณะที่ทรัมป์ได้เข้าร่วมในการอภิปรายเชิงนโยบายอย่างไม่เป็นทางการ ในการประชุมเหล่านี้ เขาได้พูดคุยกับสมาชิกสภานิติบัญญัติ ซึ่งรวมถึงผู้สมัครรองประธานาธิบดีอย่างน้อยสองคน ได้แก่ มาร์โก รูบิโอ และเจดี แวนซ์ ตลอดจนผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบาย ที่ปรึกษาอาวุโส และพันธมิตรภายนอกในหัวข้อต่างๆ ตั้งแต่การทำแท้งจนถึงอาชญากรรม
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาอดีตประธานาธิบดีทรัมป์จัดการชุมนุมในเมืองฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเขาถามฝูงชนว่าเขาควรทำตัว แข็งกร้าวและน่ารังเกียจ ต่อคู่แข่งระหว่างการอภิปรายหรือไม่ หรือควรที่จะทำตัวดีและสงบนิ่ง อย่างไรก็ตามทรัมป์มองว่าไบเดนเป็นคู่ดีเบตที่อ่อนที่สุดสำหรับเขา ทรัมป์มักจะบอกว่าไบเดนเป็นนักโต้วาทีที่แย่ที่สุดที่เคยเผชิญหน้าด้วย และไบเดนยังไม่สามารถแม้แต่จะรวมสองประโยคเข้าด้วยกันได้ด้วยซ้ำไป.
...