อิสราเอลเริ่มปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินในพื้นที่ตอนกลางของฉนวนกาซาอีกครั้ง โดยอ้างว่าถล่มที่มั่นและคลังอาวุธของฮามาสได้หลายจุด ท่ามกลางรายงานว่ามีประชาชนเสียชีวิตกว่า 70 ศพ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า อิสราเอลประกาศเริ่มปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินต่อต้านกลุ่มฮามาส ที่ค่ายผู้ลี้ภัย ‘บูเรจ’ (Bureij) กับเมืองเดียร์ อัล-บาลาห์ บริเวณตอนกลางของฉนวนกาซาอีกครั้งในวันพุธที่ 5 มิ.ย. 2567 ในขณะที่ตัวแทนจากสหรัฐฯ, อียิปต์ และกาตาร์ หารือกันที่กรุงโดฮาและไคโร ว่าจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงได้อย่างไร
ค่ายผู้ลี้ภัยบูเรจ เป็น 1 ใน 8 ค่ายผู้ลี้ภัยประวัติศาสตร์ในฉนวนกาซา และเป็นค่ายที่มีขนาดเล็กที่สุด กินพื้นที่ประมาณ 0.5 ตร.กม. และมีผู้ลงทะเบียนเป็นผู้อยู่อาศัยเพียง 46,000 คน แต่ใกล้กันนั้นยังมีค่ายผู้ลี้ภัย ‘นูเซรัต’ กับ ‘มากาซี’ และอยู่ห่างจากเมือง เดียร์ อัล-บาลาห์ ไปทางตะวันตกเฉียงใต้เพียง 5 กม.เท่านั้น
ตอนนี้ค่ายผู้ลี้ภัยทั้ง 3 แห่ง และเมืองเดียร์ อัล-บาลาห์ เต็มไปด้วยผู้พลัดถิ่นที่อพยพหนีการต่อสู้มาจากพื้นที่อื่นๆ ของกาซา รวมถึงชาวบ้านนับล้านคนที่ต้องหนีออกมาจากเมืองราฟาห์ทางตอนใต้สุด หลังจากอิสราเอลเริ่มปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นดินเมื่อเดือนพฤษภาคม
ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) เคยมีปฏิบัติการภาคพื้นดินต่อต้านกลุ่มฮามาสที่ค่ายผู้ลี้ภัยในภาคกลางของกาซามาแล้ว และปฏิบัติการนั้นกินระยะเวลานานหลายสัปดาห์
ล่าสุดในวันพุธที่ (5 มิ.ย.) IDF ระบุว่า เป้าหมายของปฏิบัติการรอบใหม่ที่บูเรจกับเมืองเดียร์ อัล-บาลาห์ คือการทำลายโครงสร้างพื้นฐานของผู้ก่อการร้าย ที่ตั้งอยู่ห่างจากชายแดนอิสราเอลหลายกิโลเมตร ทั้งบนดินและใต้ดิน พวกเขาเริ่มโจมตีทางอากาศเข้าใส่เป้าหมายต่างๆ ทั้ง ฐานที่มั่นกลุ่มติดอาวุธ, คลังเก็บอาวุธ และอุโมงค์ใต้ดิน สังหารผู้ก่อการร้ายได้มากมาย
...
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านจำนวนมากในค่ายผู้ลี้ภัยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการโจมตีรอบใหม่ของ IDF โดยในช่วงเช้าวันพุธ สำนักข่าว วาฟา (Wafa) ของปาเลสไตน์ รายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่แพทย์และหน่วยกู้ภัยว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลตกใส่บ้านเรือนหลายหลังในมากาซา เมื่อช่วงข้ามคืนที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ศพ
นอกจากนั้นยังมีผู้เสียชีวิตอีก 2 ศพ หลังการโจมตีทางอากาศตกใส่บ้านหลังหนึ่งใกล้ทางเข้าค่ายบูเรจ และอีก 2 ศพ เสียชีวิตจากกระสุนปืนใหญ่ที่ตกในเมือง อาบู อัล-อาเจน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเดียร์ อัล-บาลาห์
ต่อมา ทีมแพทย์ของ องค์การแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) ในฉนวนกาซา เปิดเผยว่า สถานการณ์ที่โรงพยาบาล อัล-อักซา ซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์การแพทย์ไม่กี่แห่งที่ยังใช้การได้ในภาคกลางของกาซา กำลังเข้าขั้น “หายนะ” โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตถึง 70 ศพ และผู้บาดเจ็บกว่า 300 ราย ถูกส่งมายังโรงพยาบาลแห่งนี้ หลายคนเป็นแผลไฟไหม้รุนแรง, มีแผลถูกยิง, โดนสะเก็ดระเบิด, กระดูกหัก และอื่นๆ
ทั้งนี้ หลัง IDF เริ่มปฏิบัติการโจมตีเมืองราฟาห์เมื่อ 6 พ.ค. พวกเขาบอกให้ประชาชนอพยพไปยังเขตเพื่อมนุษยธรรมที่ถูกขยายเพิ่มเติม ซึ่งครอบคลุมพื้นที่เมือง อัล-มาวาซี บริเวณชายฝั่งไปจนถึงเดียร์ อัล-บาลาห์ โดยอ้างว่าที่นั่นมีทั้งเต็นท์ที่พัก, โรงพยาบาลสนาม และเสบียงอาหาร
แต่สำนักงานบรรเทาทุกข์และจัดหางานของสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA) เตือนเมื่อวันจันทร์ว่า พื้นที่สำหรับผู้พลัดถิ่นในเดียร์ อัล-บาลาห์ กำลังจะหมดลงแล้ว และผู้คนกำลังแห่เดินทางไปที่นั่นด้วยความหวังว่าจะเจอสถานที่ปลอดภัย ซึ่งไม่มีอยู่จริง
อีกด้านหนึ่ง ตัวกลางเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสอย่าง สหรัฐฯ, อียิปต์ และกาตาร์ เดินทางไปหารือกันที่กรุงโดฮาและกรุงไคโร เพื่อหาทางบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และปล่อยตัวประกันฉบับใหม่
โดยสหรัฐฯ กำลังรอการตอบสนองจากกลุ่มฮามาส เรื่องข้อตกลงหยุดยิง 3 ขั้นตอน ที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แจกแจงเมื่อวันศุกร์ โดยอ้างว่าเป็นข้อเสนอจากฝ่ายอิสราเอลที่จะนำไปสู่การหยุดยิงถาวรในกาซา
ขณะที่ กาตาร์ ระบุว่า พวกเขาได้ส่งมอบแผนดังกล่าวให้ผู้แทนของฮามาสแล้ว พร้อมย้ำว่าพวกเขากำลังรอการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนจากรัฐบาลอิสราเอล หลังนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ออกมาบอกว่า จะไม่มีการหยุดยิงถาวรจนกว่าพวกเขาจะบรรลุเป้าหมายหลักทั้ง 3 อย่าง.
ติดตามข่าวต่างประเทศ : https://www.thairath.co.th/news/foreign
ที่มา : bbc