• ศาลอาญาโลก ยื่นเรื่องขอหมายจับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล พร้อมผู้นำกลุ่มฮามาส จากกรณีการพุ่งรบทำสงครามในฉนวนกาซา ในฐานะผู้ต้องสงสัยก่ออาชญากรรมสงคราม แต่หมายจับนี้จะทำให้พวกเขาถูกดำเนินคดีได้จริงหรือไม่
  • ICC คือศาลอาญาระหว่างประเทศถาวรแห่งแรกของโลก ที่จัดตั้งขึ้นภายใต้ธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2002 ตั้งอยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยมีเจตนารมณ์เพื่อที่จะนำตัวผู้กระทำผิดทางอาญาระหว่างประเทศมาลงโทษ ด้วยความร่วมมือกันของประชาคมระหว่างประเทศ
  • อย่างไรก็ตาม ศาล ICC ไม่ได้มีกลไกในการบังคับใช้หมายจับ จึงต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประเทศสมาชิกเป็นสำคัญ และอิสราเอลรวมทั้งกลุ่มฮามาสไม่ได้เป็นสมาชิกของศาล ICC แต่อย่างใด

จากการที่อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC ได้ยื่นเรื่องขอหมายจับนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล พร้อมด้วยนายโยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงนายยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำของกลุ่มฮามาส และสมาชิกระดับผู้นำของกลุ่มฮามาสอีกหลายคน ในข้อหาทำลายล้าง ข่มขืนและพฤติกรรมความรุนแรงทางเพศอื่นๆ และจับตัวประกัน ทำให้หลายฝ่ายต่างให้ความสนใจว่า หมายจับที่ออกมานี้จะส่งผลอะไรต่อตัวผู้นำอิสราเอลและผู้นำกลุ่มฮามาสได้หรือไม่ 

นายคาริม ข่าน อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ
นายคาริม ข่าน อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ

...

ทำความรู้จักกับศาล ICC และอำนาจของศาลนี้

ICC เป็นศาลอาญาระหว่างประเทศแบบถาวรแห่งแรกของโลก ซึ่งก่อตั้งขึ้นภายใต้ธรรมนูญกรุงโรมเมื่อปี 2022 โดยมีเจตนารมณ์เพื่อที่จะนำตัวผู้กระทำผิดทางอาญาระหว่างประเทศมาลงโทษ ด้วยความร่วมมือกันของประชาคมระหว่างประเทศ

ศาลแห่งนี้อยู่ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยจะมีอัยการที่จะมีอำนาจในการสืบสวนและตั้งข้อหาบุคคลต่างๆ ด้วยข้อหาอาชญากรรมสงคราม อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และอาชญากรรมการรุกราน  

โดยศาล ICC จะติดตามคดีได้ก็ต่อเมื่อมีประเทศใดประเทศหนึ่งร้องขอให้มีการสอบสวนภายในอาณาเขตของตนหรือพลเมือง เมื่อทางคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชนร้องขอให้มีการพิสูจน์ หรือเมื่อคณะผู้พิพากษาของ ICC อนุญาตให้มีการไต่สวนที่ริเริ่มโดยอัยการของศาล โดยอัยการต้องมั่นใจว่าระบบกฎหมายในประเทศไม่มีความยุติธรรมอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม ศาลอาญาระหว่างประเทศไม่สามารถตัดสินโทษประหารชีวิตได้ จะมีเพียงโทษจำคุกในศูนย์กักกันของ ICC ซึ่งอยู่ในเรือนจำของเนเธอร์แลนด์เท่านั้น โดยปัจจุบันมีรัฐภาคี 124 ประเทศที่เป็นสมาชิกอยู่ ขณะที่ทั้งจีน สหรัฐอเมริกา และรัสเซีย ไม่ได้เป็นสมาชิก

จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้

หลังจากนี้คำร้องของนายคาริม ข่าน อัยการศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC จะถูกส่งไปยังห้องก่อนการพิจารณาคดี ซึ่งห้องนี้จะประกอบด้วยผู้พิพากษาสามคน ประธานผู้พิพากษา Iulia Motoc แห่งโรมาเนีย ผู้พิพากษาชาวเม็กซิกัน Maria del Socorro Flores Liera และผู้พิพากษา Reine Alapini-Gansou แห่งเบนิน โดยจะไม่มีกำหนดวันตายตัวสำหรับผู้พิพากษาว่าจะมีการอนุมัติออกหมายจับหรือไม่ อย่างหลายๆ คดีก่อนหน้านี้ ผู้พิพากษาอาจจะใช้เวลาราว 1 เดือน หรืออาจจะนานหลายเดือนก่อนพิจารณาตัดสิน

ซึ่งหากผู้พิพากษาเห็นตรงกันว่า มีเหตุผลที่เชื่อถือได้ว่ามีการก่ออาชญากรรมสงคราม หรือก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติจริง พวกเขาก็จะอนุมัติหมายจับ โดยหมายจับดังกล่าวจะมีการระบุชื่อบุคคลอย่างชัดเจน ระบุประเภทอาชญากรรมเฉพาะที่ต้องการจับกุม และคําชี้แจงข้อเท็จจริงว่าทำไมถึงถูกตั้งข้อหาเหล่านั้น

ความเป็นไปได้ที่เนทันยาฮูจะถูกพิจารณาคดีอาชญากรสงคราม?

มีความเป็นไปได้น้อย เนื่องจากศาล ICC ไม่สามารถตัดสินคดีได้ หากผู้ต้องหาไม่มาขึ้นศาล ซึ่งก็คงเป็นไปได้ยากที่ ICC จะสามารถจับตัวนายเนทันยาฮู หรือเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลมาขึ้นศาลได้ ทำได้ก็เพียงรอให้ชาติสมาชิกเป็นผู้ดำเนินการจับกุม และยิ่งอิสราเอลไม่ได้เป็นชาติสมาชิก ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น เหมือนกับกรณีของนายปูติน ที่รัสเซียก็ไม่ได้เป็นชาติสมาชิกเช่นกัน ยกเว้นแต่ผู้ถูกออกหมายจับจะเดินทางเยือนประเทศพันธมิตรที่เป็นสมาชิกของศาล ICC และชาตินั้นต้องยินดีที่จะดำเนินการจับกุมให้ด้วย
ส่วนทางด้านของผู้นำกลุ่มฮามาส รัฐปาเลสไตน์ นับเป็นสมาชิกของ ICC ซึ่งตามทฤษฎีแล้ว คณะผู้ปกครองฉนวนกาซาซึ่งก็คือผู้นำกลุ่มฮามาส นายยาห์ยา ซินวาร์ และผู้บัญชาการของกองกำลังกลุ่มฮามาส จะต้องปฏิบัติตามหมายจับด้วยการยอมเข้ามอบตัว แต่นายอิสมาอิล ฮานิเยห์ มีฐานอยู่ที่กาตาร์ ซึ่งก็ไม่ใช่ชาติสมาชิกของ ICC ด้วยเช่นกัน

นายยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำของกลุ่มฮามาส
นายยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำของกลุ่มฮามาส

...

ใครบ้างที่เคยถูก ICC ออกหมายจับ?

นับตั้งแต่ก่อตั้งมา ICC เคยออกหมายจับมาแล้วทั้งหมด 46 หมาย และมีการกักขังผู้ต้องหาไว้ที่ศูนย์กักกัน 21 คน ในจำนวนนี้เป็นบุคคล 17 คน รวมถึงนายวลาดิเมียร์ ปูติน และอดีตประธานาธิบดีซูดาน โอมาร์ อัล บาเชียร์ ซึ่งยังคงหลบหนีอยู่ โดยมี 7 ข้อหาที่ถูกยกเลิกไป เพราะเสียชีวิตแล้ว.

ผู้เขียน : อาจุมมาโอปอล

ที่มา : ChannelnewsasiaBBC

คลิกอ่านข่าว รายงานพิเศษไทยรัฐออนไลน์