ทางการเม็กซิโกพบศพ 3 ศพในรัฐบาฮากาลิฟอร์เนีย หลังมีรายงานว่านักท่องเที่ยวต่างชาติ 3 คนหายตัวไป คาดว่าอาจถูกปล้นชิงทรัพย์

เจ้าหน้าที่เม็กซิโกเปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิต 3 ศพที่พบในรัฐบาฮากาลิฟอร์เนียของเม็กซิโก มีแนวโน้มว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน 1 คน และนักท่องเที่ยวชาวออสเตรเลีย 2 คนที่หายตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ทางการเม็กซิโกกำลังดำเนินการทดสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ หลังจากพบศพเมื่อวันศุกร์ (3 พ.ค.) ในบ่อน้ำแห่งหนึ่ง หลังจากการค้นหานายคัลลัม วัย 33 ปี และเจค โรบินสัน วัย 30 ปี พี่น้องชาวออสเตรเลีย รวมถึงนายคาร์เตอร์ โรด ชาวอเมริกัน วัย 30 ปี

ทั้งสามคนได้เดินทางมาเล่นเซิร์ฟในช่วงวันหยุดใกล้กับเมืองเอนเซนาดา เมืองท่องเที่ยวยอดนิยมริมชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกไปทางใต้โดยทางรถยนต์ประมาณ 90 นาที 

มาเรีย เอเลนา อันดราด อัยการสูงสุดแห่งรัฐบาฮา กาลิฟอร์เนีย กล่าวว่า ศพทั้งสามมีรูปพรรณสัณฐานตรงตามที่สันนิษฐานได้ โดยมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นคาร์เตอร์ โรด ชาวอเมริกัน และพี่น้องตระกูลโรบินสันจากออสเตรเลีย อันดราดกล่าวว่า ศพทั้งสามถูกพบอยู่ในสภาพเน่าเปื่อยที่ก้นบ่อที่มีความลึกกว่า 15 เมตร "รูปพรรณทางกายภาพบางอย่างทำให้เราเชื่อว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นทั้งสามคน"

บาฮากาลิฟอร์เนียเป็นรัฐที่เกิดเหตุความรุนแรงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเม็กซิโก แม้ว่าพื้นที่เมืองเอนเซนาดาจะถือว่ามีความปลอดภัยก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แนะนำให้ชาวอเมริกันพิจารณาการเดินทางเข้ารัฐบาฮากาลิฟอร์เนีย เนื่องจากเหตุอาชญากรรมและการลักพาตัว

นักเล่นเซิร์ฟทั้ง 3 คนถูกพบเห็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 27 เมษายน และได้รับแจ้งว่าหายตัวไปใน 2-3 วันต่อมา โดยทางการเม็กซิโกได้เริ่มการค้นหานานหลายวันโดยได้รับความช่วยเหลือจากสำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา หรือเอฟบีไอ

...

เจ้าหน้าที่กล่าวว่า จนถึงขณะนี้มีผู้ถูกจับกุมแล้ว 3 ราย นอกจากนั้น ยานพาหนะที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นของนักเล่นเซิร์ฟทั้ง 3 คนก็ถูกพบในบริเวณนั้นด้วย ทางการเม็กซิโกระบุสมมติฐานเบื้องต้นว่า ผู้ที่ถูกจับกุมพยายามปล้นชาวต่างชาติ และเมื่อนักเล่นเซิร์ฟขัดขืน พวกเขาจึงถูกยิงและทิ้งศพของพวกเขาในบ่อน้ำ นอกจากนั้น ยังพบศพชายคนที่ 4 ในบ่อน้ำ โดยเชื่อว่าว่าศพดังกล่าวน่าจะถูกทิ้งมาก่อนแล้ว และเชื่อว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีนี้.

ที่มา Reuters

ติดตามข่าวต่างประเทศเพิ่มเติมที่ https://www.thairath.co.th/news/foreign