- พันเอก ‘หม่อง ชิตตู่’ คือใคร กลายเป็นคำถามจากคนภายนอก หลังจากชายผู้นี้ได้กลายเป็นคนชี้ชะตาเมืองเมียวดี เมืองเศรษฐกิจชายแดนติดกับไทย จนทำให้สถานการณ์ที่เมียวดีพลิกผันในเวลารวดเร็ว
- หากย้อนดูประวัติ ‘หม่อง ชิตตู่’ สร้างชื่อมาตั้งแต่เมื่อครั้งเป็นผู้บัญชาการกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ ต่อมาได้ตัดสินใจหันไปอยู่กับฝ่ายกองทัพพม่า และแปรสภาพเป็นกองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ BGF พร้อมกับสร้างอาณาจักรธุรกิจมากมาย ก่อนจะถอนตัวจากกองทัพพม่า ลั่นขอวางตัวเป็นกลาง และเปลี่ยนชื่อกองกำลัง BGF มาเป็นกองกำลังกะเหรี่ยง KNA
- แต่แล้ว ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดที่เมียวดี ‘หม่อง ชิตตู่’ ก็กลับลำหันไปอยู่กับฝ่ายรัฐบาลทหารมิน อ่อง หล่าย หลังเจรจาต่อรองผลประโยชน์กันลงตัว ช่วยคุ้มกันพาทหารพม่า 200 นายกลับไปยังค่ายผาซองอีกครั้ง สร้างความเจ็บแค้นให้กับกองกำลังฝ่ายต่อต้านเป็นอย่างยิ่ง
สถานการณ์ในเมืองเมียวดี เมืองหน้าด่านเศรษฐกิจชายแดนทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมา หรือพม่า ซึ่งติดกับชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก พลิกผัน ชนิดจากหน้ามือเป็นหลังมือในเวลาอันรวดเร็ว
จากที่กองกำลังปลดปล่อยชาติกะเหรี่ยง (KNLA) ผนึกกำลังกับกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) และกองกำลังประชาชน หรือพีดีเอฟ ของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติพม่า เพิ่งได้ชัยชนะยึดกองพันทหารราบ 275 หรือค่ายผาซอง ค่ายใหญ่ที่สุดแห่งสุดท้ายในเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง มาได้สำเร็จเมื่อ 11 เมษายน 2567 แต่แล้วเพียงสองสัปดาห์ต่อมา เหตุการณ์ที่เมียวดีได้พลิกผัน เมื่อกองกำลังกะเหรี่ยงแห่งชาติ หรือ KNA ภายใต้การนำของพันเอกซอ ชิตตู่ (Saw Chit Thu) ซึ่งคนไทยเรียกกันว่า ‘หม่อง ชิตตู่’ ได้ ‘หักหลัง’ กะเหรี่ยงด้วยกันเอง ตัดสินใจกลับไปอยู่ฝ่ายรัฐบาลทหารมิน อ่อง หล่าย ด้วยการช่วยคุ้มกันพาทหารพม่าราว 200 คน ซึ่งหนีจากค่ายผาซองไปหลบอยู่ที่สะพานมิตรภาพไทย-พม่าแห่งที่ 2 กลับไปยังค่ายใหญ่แห่งนี้ตามเดิม
...
การกลับลำของพันเอกหม่อง ชิตตู่ ทำให้สถานการณ์ในเมืองเมียวดีต้องพลิกผัน และทำให้คนภายนอกเกิดความสงสัยอย่างมากว่า ทำไมชายที่ชื่อพันเอก ‘หม่อง ชิตตู่’ จึงได้มีอิทธิพลมากมาย ถึงขนาดเป็นผู้กำหนดชะตากรรมของเมืองเมียวดี ซึ่งเป็นเมืองยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ การค้าชายแดนของพม่า-ไทย ซึ่งมีเงินหมุนเวียนราว 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3.7 หมื่นล้านบาทเช่นนี้
‘หม่อง ชิตตู่’ คือใคร?
พันเอก หม่อง ชิตตู่ เป็นทหารชาวกะเหรี่ยง เริ่มมีชื่อเสียงมาตั้งแต่ได้เป็นผู้บัญชาการกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย (DKBA) หรือกองพัน 999 ก่อนต่อมาจะตัดสินใจแยกตัวจากสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) และหันไปเป็นพันธมิตรกับกองทัพรัฐบาลพม่ามาตั้งแต่ปี 2537
หม่อง ชิตตู่ เคยถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้นำกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธ โจมตีชาวกะเหรี่ยงที่ค่ายอพยพบริเวณชายแดนไทยเมื่อปี 2541
ท่ามกลางเหล่าแกนนำของกองกำลังกะเหรี่ยงพุทธประชาธิปไตย DKBA นั้น หม่อง ชิตตู่ ถือว่าเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจที่มีอิทธิพลมากที่สุด ทั้งในด้านปีกติดอาวุธและฝ่ายบริหารทางการเมืองของ DKBA
เชื่อกันว่าหม่อง ชิตตู่ ซึ่งถูกเรียกขานว่า เป็นทั้ง ‘ขุนศึก’ และ ‘เจ้าพ่อ’ เป็นเจ้าของธุรกิจมากมาย ทั้งธุรกิจค้าไม้ และค้ารถยนต์ อีกทั้งยังมีข่าวลือว่าหม่อง ชิตตู่ เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดด้วย
ต่อมา ในปี 2553 หม่อง ชิตตู่ ได้ยอมรับข้อเสนอของรัฐบาลพม่าในการแปรสภาพกองกำลัง DKBA เปลี่ยนไปเป็น ‘กองกำลังพิทักษ์ชายแดน’ (Border Guard Force) หรือ BGF ซึ่งอยู่ภายใต้คำสั่งการกำกับดูแลของกองทัพพม่า หรือตัดมาดอว์
กองกำลัง BGF ของพันเอกหม่อง ชิตตู่ ได้ให้การสนับสนุน จนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับกองทัพรัฐบาลพม่าเรื่อยมา โดยเมื่อปี 2565 เขาได้รับการชื่นชมจากพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ว่ามีผลงานด้านการทหารดีเยี่ยม

ถอนตัวจากฝ่าย รบ.ทหารพม่า ขอ ‘วางตัวเป็นกลาง’
อย่างไรก็ตาม เมื่อต้นปี มกราคม 2567 กองกำลังพิทักษ์ชายแดน หรือ BGF ของหม่อง ชิตตู่ ได้ถอนตัวจากรัฐบาลทหารพม่า ภายใต้การนำของพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่ายซึ่งเป็นหัวหน้าคณะก่อรัฐประหารในพม่าตั้งแต่ปี 2564 พร้อมกับแจ้งต่อทางการพม่าว่า กองกำลัง BGF จะไม่ขอรับเงินเดือนและสวัสดิการต่างๆ ที่กองทัพบกพม่าเคยมอบให้อีกต่อไป โดยต่อแต่นี้ กองกำลัง BGF จะวางตัวเป็นกลาง ไม่เข้าข้างกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใด รวมทั้งจะไม่ต่อต้านทหารของรัฐบาลพม่าด้วย โดยจะขอทำหน้าที่รักษาความสงบในพื้นที่และจะหางบประมาณมาดูแลกองกำลังพลด้วยตนเอง
...
จากนั้น ไม่กี่เดือนต่อมา พันเอกหม่อง ชิตตู่ ได้เปลี่ยนชื่อ กองกำลังพิทักษ์ชายแดน BGF มาเป็นกองกำลังแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNA โดยมีกำลังพลประมาณ 8,000 นาย คุมพื้นที่ชายแดนเมืองเมียวดีติดกับไทย โดยเฉพาะในพื้นที่เมืองชเวโก๊กโก่และเคเค พาร์ค (KK Park) ตรงข้ามชายแดนไทย

ร่วมลงทุนกับกลุ่มนักลงทุนจีน ‘สีเทา’
บีบีซีรายงานเป็นที่ทราบกันดีว่า ก่อนพันเอกหม่อง ชิตตู่จะตัดขาดกับกองทัพพม่านั้น ในปี 2560 พันเอกหม่อง ชิตตู่ ได้เกี่ยวข้องกับการสร้างเมืองชเวโก๊กโก่ ทางตอนเหนือของเมืองเมียวดี ให้เป็น ‘เขตเศรษฐกิจพิเศษ’ ตามแนวชายแดนไทย-พม่า ซึ่งโครงการนี้ก้าวหน้าเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะพันเอกหม่อง ชิตตู่ ได้ร่วมมือกับกลุ่มนักลงทุนจีน ‘สีเทา’ ทำให้เมืองชเวโก๊กโก่ และต่อมายังสร้างเมืองเคเค พาร์ค (KK Park) ทางตอนใต้ของเมียวดี ซึ่งติดกับชายแดนประเทศไทย จนทั้งสองเมืองกลายเป็นศูนย์กลางอาชญากรรมออนไลน์ระดับโลก เป็นที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แก๊งสแกมเมอร์ สถานกาสิโน และแหล่งพนันออนไลน์หลากหลายรูปแบบ ที่สร้างรายได้มหาศาล
...
จนทำให้พันเอกหม่อง ชิตตู่ ถูกรัฐบาลอังกฤษออกมาตรการลงโทษในข้อหาละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นรุนเเรง และนักวิเคราะห์กล่าวว่าเขาพัวพันกับขบวนการหลอกลวงโดยเครือข่ายอาชญากรรมจีน ตามแนวชายพม่าติดกับไทย

‘กลับลำ’ หันไปอยู่ฝ่ายรัฐบาลทหารพม่า
ด้วยอำนาจบารมีของพันเอกหม่อง ชิตตู่ ซึ่งเป็นทั้งเจ้าพ่อคุมธุรกิจ ผลประโยชน์มากมายมหาศาล และยังเป็นขุนศึก ผู้บัญชาการกองกำลังกะเหรี่ยง KNA ที่มีกำลังพลจำนวนมาก ทำให้พันเอกหม่อง ชิตตู่ กลายเป็นคนคุมเกม กำหนดชะตากรรมของเมียวดี
และในที่สุด พันเอกหม่อง ชิตตู่ ก็ได้กลับลำ ตัดสินใจหันไปช่วยกองทัพรัฐบาลทหารพม่า หลังจากเจรจาต่อรองผลประโยชน์กันลงตัว ทำให้สถานการณ์ของรัฐบาลทหารพม่าที่กำลังตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำต่อกองกำลังฝ่ายต่อต้าน KNLA และ KNU พลิกกลับมาฮึกเหิม กลับไปคุมกองพัน 275 ที่เมียวดี ได้อีกครั้ง และตอนนี้ กองทัพพม่ากำลังส่งทหารอีกราว 1,000 นายมุ่งหน้ามาเสริมกำลังที่เมียวดี
ผู้เขียน : อรัญญา ศรีจันทรนิตย์
...